1

 

 

 


คำถาม-คำตอบ ข้อ 101-150

150.
เรียนอาจารย์สนองที่เคารพ
โมโหแม่และด่าแม่ในใจว่าโง่ รู้สึกละอายใจมากครับ แม่ยังมีชีวิตอยู่
แต่จะกราบขอขมาแม่กับพระพุทธรูปได้หรือไม่ครับ
ขอบคุณครับ
จากเด็กไม่เอาไหน

คำตอบ
  ต้อง ขอขมาแม่ ที่ล่วงเกินแม่

149.
ท่านอาจารย์ได้ตอบคำถามในข้อ 146. ว่า
"ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานโดยไม่ต้องนำตัวเองเข้าสำนักปฏิบัติธรรมสามารถทำได้
ถ้ารู้ว่าผิดทางแล้วแก้ไขด้วยตัวเองได้ ดูตัวอย่างของภิกษุณีโคตรมีในครั้งพุทธกาล
ท่านใช้ “ หลักกำหนดธรรมวินัย 8 ”
เป็นมาตรวัดแนวทางการปฏิบัติของท่านจนสามารถบรรลุอรหัตผลได้ "
หนูไม่รู้หลักกำหนดธรรมวินัย 8 คืออะไรจึงค้นเว็บ ปรากฎว่าพบหลายเว็บ
จึงก็อปปี้มาที่หนึ่งจาก http://www.dhammathai.org/dhamma/group08.php
เผื่อว่าจะมีโครไม่รู้เหมือนหนู ก็จะได้ทราบด้วย คือ
(๒๗๙) ลักษณะตัดสินธรรมวินัย ๘ หรือ หลักกำหนดธรรมวินัย ๘ (criteria of the
Doctrine and the Discipline)

ธรรมเหล่าใดเป็นไปเพื่อ
๑. วิราคะ คือ ความคลายกำหนัด, ความไม่ติดพัน เป็นอิสระ (detachment; dispassionateness) มิใช่เพื่อความกำหนัดย้อมใจ, การเสริมความติด
๒. วิสังโยค คือ ความหมดเครื่องผูกรัด, ความไม่ประกอบทุกข์ (release from bondage) มิใช่เพื่อผูกรัด หรือประกอบทุกข์
๓. อปจยะ คือ ความไม่พอกพูนกิเลส (dispersion of defilements) มิใช่เพื่อพอกพูนกิเลส
๔. อัปปิจฉตา คือ ความอยากอันน้อย, ความมักน้อย (wanting little) มิใช่เพื่อความอยากอันใหญ่, ความมักใหญ่ หรือมักมากอยากใหญ่
๕. สันตุฏฐี คือ ความสันโดษ (contentment) มิใช่เพื่อความไม่สันโดษ
๖. ปวิเวก คือ ความสงัด (seclusion; solitude) มิใช่เพื่อความคลุกคลีอยู่ในหมู่
๗. วิริยารัมภะ คือ การประกอบความเพียร (energy; exertion) มิใช่เพื่อความเกียจคร้าน
๘. สุภรตา คือ ความเลี้ยงง่าย (being easy to support) มิใช่เพื่อความเลี้ยงยาก

ธรรมเหล่านี้ พึงรู้ว่าเป็นธรรม เป็นวินัย เป็นสัตถุสาสน์ คือคำสอนของพระศาสดา;
หมวดนี้ ตรัสแก่พระนางมหาปชาบดีโคตมี

Vin.II.259; A.IV.280. วินย.๗/๕๒๓/๓๓๑; องฺ.อฏฺฐก.๒๓/๑๔๓/๒๘๙.

แต่ทว่าตอนนี้หนูยังไปไม่ถึงขั้นนั้น เพราะหนูขี้เกียจปฏิบัติ
ธรรมอันใดเป็นไปเพื่อความหมั่น เพื่อความเพียร เพื่อปลูกศรัทธา เพื่อความเห็นทุกข์
ขอท่านอาจารย์ได้โปรดบอกธรรมนั้นให้หนูด้วยเจ้าค่ะ เพราะหนูอยากบรรลุนิพพานภายใน 7 ชาติเหมือนกัน

กราบท่านอาจารย์ด้วยความเคารพอย่างสูงเจ้าค่ะ

สยา

คำตอบ
  อยากนิพพานใน 7 ชาติ เป็นความเห็นผิด ต้องปรับความเห็นให้ถูกเสียใหม่ว่า ปรารถนานิพพานในอนาคตกาลอันใกล้ และต้องสร้างเหตุให้ตรงคือ ทำตัวเองให้เป็นผู้ไม่เกียจคร้านในการปฏิบัติธรรม ความขี้เกียจเป็นวิถีแห่งความเสื่อมของชีวิต เหตุเกิดเพราะจิตมีกำลังของสติอ่อน มักเกิดกับผู้ที่ชอบส่งจิตออกนอกกาย ไปรับสิ่งกระทบภายนอกมาปรุงอารมณ์หลากหลาย
   วิธีแก้ไขความขี้เกียจ ต้องทำจิตให้ไม่หวั่นไหวในเบื้องต้นด้วยการเอาศีลมาคุมใจให้ได้ก่อน แล้วจึงฝึกจิตให้มีสติ ตามองค์บริกรรมที่ใช้อยู่ ทำทุกครั้งที่นึกได้ ทำทุกครั้งที่ว่างจากงาน ที่ทำงานให้เอาใจจดจ่ออยู่กับงานที่ทำและสุดท้ายอย่าส่งใจออกนอกกาย หากเชื่อแล้วปฏิบัติตามนี้พร้อมทั้งมีสัจจะสนับสนุน ความขี้เกียจหายไปได้แน่นอนแล้วความขยันในการปฏิบัติธรรมเพื่อบรรลุมรรคผลนิพพานเป็นไปได้

148.
กราบเรียนท่านอาจารย์ สนอง ที่เคารพ

รบกวนขอเรียนถามว่าความหมายของคำว่า การคิดดี พูดดี ทำดี คืออะไรคะ จะต้องไปบรรยายเรื่องนี้ค่ะ แต่ยังไม่กระจ่าง ขอบคุณมากค่ะ

อันนา เจริญการ

คำตอบ
    คำว่าดีที่เขียนไว้ต่อท้าย การคิด การพูด การกระทำนั้น หมายถึง พฤติกรรมที่ทำแล้ว เกิดประโยชน์กับชีวิตและไม่เบียดเบียนทั้งตนเองและผู้อื่น ตัวอย่างเช่นคิดอยากช่วยเหลือผู้ประสบความอดอยากจากภัยน้ำท่วม จึงได้ไปบอกกล่าวผู้อื่นให้สละบริจาควัตถุที่มีเหลือใช้ เพื่อนำไปแจกจ่ายให้เขาบรรเทาทุกข์ลง เก็บรวบรวมสิ่งของที่รับบริจาคและใส่รถบรรทุกนำไปส่งให้เขาผู้เดือดร้อนต้องการนำไปใช้บรรเทาทุกข์ให้เบาบางลง การคิด พูด ทำ อย่างนี้ถือว่าเป็นการคิดดี พูดดี และทำดี

147.
กราบเรียนถามท่านอาจารย์ ดร.สนองค่ะ

ในอดีตแฟนได้เคยนอกใจ ต่อมาพอมีแฟนคนใหม่ ก็กลายเป็นคนขี้ระแวงตลอดเวลา อยากหายจากการระแวงค่ะ เพราะทำให้ไม่มีความสุขในชีวิต แต่ก็อดไม่ได้ ถ้าฝึกจิตพัฒนาตนเอง จะหายไปไหมคะ

กราบขอบพระคุณค่ะ
เบญญาภา

คำตอบ
    คนขี้ระแวงเป็นคนมีสติอ่อน มีความเห็นแก่ตัว และไม่รู้จริงในเรื่องของชีวิต ที่ว่ามีสติอ่อนเพราะปล่อยใจให้ไปรับสัญญาเก่าที่ไม่ดีจากอดีตมาปรุงแต่งเป็นอารมณ์ และยึดติด(อุปทาน)อยู่ในอารมณ์ติดลบนั้นส่งผลให้เกิดเป็นความหวาดระแวง ทำให้เสียบุคลิกและเกิดทุกข์กับตัวเอง ถ้าอยากจะพ้นจากอุปทานนี้ ต้องฝึกจิตให้มีสติเข้มๆ คือให้ระลึกอยู่กับอิริยาบถที่เป็นปัจจุบันเท่านั้น แล้วพัฒนาให้เกิดปัญญาเห็นแจ้ง ให้ปัญญาเห็นแจ้งพิจารณาขันธ์ 5 ให้ดับไปตามกฎไตรลักษณ์ เมื่อขันธ์ 5 ไม่มี(อนัตตา) ความเห็นแก่ตัวจะหมดไป จิตไม่ไปเปลี่ยนคนอื่นให้มาเป็นอย่างที่เราคิด คนที่ไม่รู้จริงคือคนโง่ รังแต่จะคอยเปลี่ยนคนอื่นให้มาเป็นเหมือนเรา อย่างนี้เรียกว่ามีความเห็นผิด ผลที่ตามมาคือเกิดเป็นทุกข์ขึ้นในใจ
    อนึ่งชีวิตคน/สัตว์ มีการเกิดแล้วตาย หากไปยึดถือสิ่งที่เป็นกำพร้าคือจะไม่อยู่กับเราตลอดไป ต้องพลัดพรากจากกันในวันข้างหน้า(ตาย) เป็นอุปาทานที่สูญเปล่าเป็นทุกข์เลื่อยมาในทุกภพชาติที่เกิด หากรู้จริงอย่างนี้แล้ว คุณจะอยู่กับสิ่งที่เป็นสมมติได้อย่างไม่ระแวง และมีความสุข

146.
เรียนปรึกษาเรื่องการปฏิบัติธรรมครับ
    1.ผมปฏิบัติธรรมโดยอ่านจากหนังสือและฟังเสียงบรรยายจาก internet โดยไม่ได้ไปสำนักใดๆ ได้ไหมครับ(ปฏิบัติที่บ้าน)

คำตอบ
   ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานโดยไม่ต้องนำตัวเองเข้าสำนักปฏิบัติธรรมสามารถทำได้ ถ้ารู้ว่าผิดทางแล้วแก้ไขด้วยตัวเองได้ ดูตัวอย่างของภิกษุณีโคตรมีในครั้งพุทธกาล ท่านใช้ “ หลักกำหนดธรรมวินัย 8 ” เป็นมาตรวัดแนวทางการปฏิบัติของท่านจนสามารถบรรลุอรหัตผลได้

    2.ผมมักจะมีความคิดที่เป็นอกุศล ผ่านเข้ามาในจิตเนืองๆ โดยพยายามจะรู้สติไม่ให้คิด แต่บางครั้งก็ฝืนไม่ได้ครับ

คำตอบ
     แก้ไขโดยให้ทานทุกรูปแบบ เพราะจะทำให้กิเลสหลุดง่ายและรักษาศีล 5 ให้อยู่คุมใจ เพราะศีลทำให้ใจสงบ เมื่อทำทั้ง 2 อย่าง ได้แล้วทำจิตภาวนา (สมถกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐาน) แล้วใช้สติและปัญญาที่เห็นถูกตรงที่เกิดขึ้น ไปกำจัดความคิดอกุศล โดยพิจารณาให้เห็นว่าความคิดอกุศลเป็นไปตามกฎไตรลักษณ์ คือในที่สุดดับไปไม่มีตัวตนจิตจะปล่อยวาง พิจารณาทุกครั้งที่ความคิดอกุศลเกิดขึ้นในที่สุดจะหมดไปเอง

    3.ผมจะประกอบธุรกิจผลิตกระเป๋ารองเท้าจากหนังสัตว์(ส่วนมากจะเป็นหนังวัว) โดยไปซื้อหนังจากร้านค้าหรือโรงงานที่ฟอกย้อมสำเร็จแล้ว ซึ่งไม่มีเจตนา ที่จะผิดศีลข้อปาณา และจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้สัตว์เหล่านั้น ทั้งนี้จะเกิด ผลอย่างไรครับ
   ขอผลบุญที่กระผมได้ปฏิบัติมาจงส่งผลให้อาจารย์ เจริญในอายุ วรรณะ สุขะ พละ ครับ
       ภูมิ์

คำตอบ
      การทำธุรกิจเกี่ยวกับหนังสัตว์ ไม่ผิดศีลข้อปาณาติบาต เพราะไม่ได้สั่งให้เขาฆ่าเพื่อเอาหนังมาทำเครื่องใช้ แต่อาจผิดศีลข้อ 2 อทินนา ตรงที่ว่าหากมีสัตว์ตัวใดเห็นผิด ผูกพยาบาทจองเวรกับผู้ที่เอาชิ้นส่วนของซากศพไปใช้ โดยมิได้ขออนุญาตจากเจ้าของซาก ทางที่ปลอดภัย ควรบังสุกุลตาย ก่อนนำหนังสัตว์เข้าสู่โรงงาน และทำให้ดียิ่งขึ้น ควรทำบุญบ่อย ๆ แล้วอุทิศบุญกุศลให้กับสัตว์ทุกตัวที่เราไปเอาหนังของเขามาใช้ (บังสุกุลตายหาดูได้จากหนังสือสวดมนต์ทั่วไป)

 
 

145.
อยากจะเรียน ดร.สนอง เกี่ยวกับการแต่งงานครับ
   ผมได้เริ่มฝึกวิปัสสนากรรมฐานตั้งแต่ตอนเข้าค่ายที่คณะมนุษย์มช.และก็ยังปฏิบัติเรื่อยมา ตอนนี้ผม อายุ 23 ปี หลังเรียนจบ คุณแม่คุณพ่อ และญาติ ๆ ฝั่งคุณพ่อหลายคนอยากได้หลานเพื่อสืบทอดตระกูลตามความเชื่อของคนจีนเพราะผมเป็นลูกของลูกชายคนโต ผมไม่ได้ยึดติดตรงนี้ เพราะคิดว่าทุกอย่างเป็นสิ่งที่เราสมมุติบัญญัติขึ้นมา และ ปราถนาอยากจะละกามราคะเพื่อให้จิตเป็นอิสระ และปฏิบัติกรรมฐานได้ดีขึ้น เพราะคิดว่าการมีครอบครัวเหมือนมีภาระหนักเป็นบ่วงผูกคอ เป็นการเพิ่มสิ่งที่ต้องกังวลในใจ ผมก็อธิบายให้คุณพ่อคุณแม่ฟัง ท่านก็รับฟังแต่ก็รู้ว่าท่านจะดีใจมากถ้าเรามีหลานให้ คงจะเป็นสิ่งที่ทำให้ท่านดีใจที่สุดในชีวิตที่ผมสามารถให้ได้
   ผมควรจะตอบแทนบุพพากรีโดยการมีครอบครัว หรือว่าตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติธรรมโดยการเป็นโสดทั้งชีวิตดีกว่ากันครับ

คำตอบ
    พ่อแม่มีบุญคุณในฐานะแม่ให้อาศัยท้องเกิด พ่อและแม่ให้การเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ คุณจึงถูกสังคมสมมติเรียกว่าลูก การระลึกถึงบุญคุณและตอบแทนผู้มีพระคุณเป็นคุณธรรมของผู้เจริญ ลูกต้องปฏิบัติจริยธรรมการเป็นลูกที่ดี เช่น ท่านเลี้ยงมาเลี้ยงท่านตอบแทน ช่วยทำธุรกิจการงานของท่าน ดำรงวงศ์สกุลให้คงอยู่ทำตนเป็นทายาทที่ดี ทำบุญอุทิศเมื่อท่านล่วงลับ

   ส่วนเรื่องของชีวิตคุณมีสิทธิ์ที่จะเลือกทางเดินได้เอง เป็นเรื่องที่ต้องบริหารจัดการเอาเอง เพราะชีวิตเป็นของคุณ ตัวอย่าง เจ้าชายสิทธัตถะ เลือกชีวิตการเป็นพระพุทธเจ้า ใช้ธรรมวินัยมาสั่งสอนคนให้พ้นทุกข์ ปิปผลิมาณพ (พระมหากัสสปะ) ทิ้งสมบัติเศรษฐี ออกบวชเป็นพุทธสาวกสำเร็จเป็นพระอรหันต์ อัมพปาลี ทิ้งอาชีพโสเภณี ออกบวชเป็นพุทธสาวิกา สำเร็จเป็นพระอรหันต์ ฯลฯ เหล่านี้ต่างเลือกทางเดินของชีวิตด้วยตนเอง และนำชีวิตไปสู่ความเจริญสูงสุด


144.
กราบเรียนท่านอาจารย์ดร.สนอง วรอุไร ที่เคารพยิ่ง
ขอกราบเรียนถามท่านอาจารย์ดังนี้
   1. เกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบในภาคใต้นั้น ชาวไทยพุทธใน 4 จังหวัดภาคใต้ควรวางจิตใจไว้อย่างไร ตั้งอยู่ในอะไร และชาวพุทธในจังหวัดอื่นควรวางจิตใจไว้อย่างไร ตั้งอยู่ในอะไร
มีหนทางใดที่เราแต่ละคนจะปฏิบัติเพื่อช่วยรักษาแผ่นดินให้สงบสุขโดยเร็วได้หรือไม่

คำตอบ
   ชาวพุทธทุกคน ถ้าเป็นชาวพุทธแท้ ต้องมีศีลและเมตตาอยู่ในใจผู้มีศีลเป็นผู้มีกาย วาจา ใจ สะอาด ผู้มีเมตตามีความสงบเย็น ต้นเหตุของปัญหาใน 3 จังหวัดภาคใต้อยู่ที่บุคคลเป็นผู้ทุศีลและขาดเมตตา มีปฏิสัมพันธ์ทางลบกับผู้อื่น การพยาบาทจองเวรจึงเกิดขึ้น
    จะทำให้แผ่นดินใน 3 จังหวัดภาคใต้สงบได้ ต้องรักษาคนดีซึ่งเป็นประชากรกลุ่มใหญ่ให้คงเป็นคนดีอยู่ได้ ด้วยการไม่ไปเบียดเบียนเขา มีเมตตาช่วยเหลือเขาให้มีอาชีพให้มีงานทำ ซึ่งจะส่งผลให้อยู่ดีกินดีมีปัจจัยใช้สอย ดังที่สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ทรงกระทำให้ดูเป็นตัวอย่าง เมื่อใดคนมีงานทำ มีเงินใช้ มีความเป็นอยู่สุขสบาย เขาจะไม่ไปก่อปัญหา ให้สังคมเดือดร้อนหรอก
   ส่วนผู้ก่อความไม่สงบซึ่งมีเป็นส่วนน้อย ควรใช้ความเมตตาให้อภัยชักชวนเขาให้กลับมาช่วยพัฒนาบ้านเมือง ทั้งนี้ผู้ปกครองดูแลสังคมต้องอดทน มีสัจจะ มีความยุติธรรม และต้องสร้างงานให้เขาทำ
   ส่วนผู้เห็นผิดไม่กลับตัวกลับใจ รัฐต้องจับเขามาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของบ้านเมือง ถ้าทำได้อย่างนี้แผ่นดินใน 3 จังหวัดภาคใต้ จะมีความสงบในระดับที่อยู่กันได้อย่างปกติสุข

   2. ถ้าเรารู้ว่ากรรมชั่วในอดีตชาติอย่างหนึ่งกำลังจะส่งผลโดยต้องไปเกี่ยวข้องผูกพันหรือประพฤติมิชอบกับบุคคลที่ไม่สมควร และเราพยายามประกอบความดี ยกจิตให้สูง เพื่อระงับการประพฤติชั่วอันนั้น แต่ไม่มั่นใจว่าจะมีสติยับยั้งไว้ได้ตลอดไปหรือไม่ การหลีกไปให้พ้นจากบุคคลนั้นเป็นทางออกที่ดีที่สุดหรือยัง และถ้าเรามีภาระหน้าที่ที่ทิ้ง(หนี)เขาไปไม่ได้แล้วเราควรทำอย่างไร
   ขอกราบขอบพระคุณในความเมตตาของท่านอาจารย์เป็นอย่างยิ่งครับ

คำตอบ
    เมื่อใดกรรมชั่ว ให้ผล คุณต้องยอมรับความจริง ยอมรับอกุศลวิบาก ขณะเดียวกันหยุดทำชั่ว แล้วทำกรรมดีให้ยิ่ง ๆ ขึ้น การนำตัวออกจากกลุ่มคนชั่ว เป็นวิธีการหนึ่งที่จะไม่ให้คุณ เข้าไปมีส่วนร่วมในกรรมชั่วเพิ่มมากขึ้น ผู้ตอบคำถามเคยมีปัญหาอย่างนี้และได้ทำอย่างที่แนะนำ ด้วยการหางานใหม่ที่เป็นสัมมาอาชีวะทำ และทำได้สำเร็จมาแล้ว

143.
    ผมนั่งสมาธิมาได้ปีสองปีแล้วแต่จิตไม่สงบซักที ปัญหาหนึ่งมีอยู่ว่า ขณะที่ผมดูลมหายใจเข้าออก หลังก็จะงอไปเรื่อยๆ พอรู้ตัวว่าหลังงอผมก็จะยืดหลังให้ตรงเป็นระยะๆทำให้จิตไม่สงบนิ่งซักที ถ้าจะปล่อยให้หลังงอไปเรือยๆก็เกรงว่าจะไม่ถูกหลักไม่ดี เดียวหลังจะงอติดเป็นนิสัย เลยอยากจะรบกวนถามว่าควรจะทำอย่างไรดีครับ คอยยืดตัวเป็นระยะๆให้ชินหรือว่าไม่ต้องสนใจหลัง ดูลมหายใจอย่างเดียว หลังจะงอก็ปล่อยมัน
    ขอบคุณครับ
       อาร์ต
คำตอบ
   นั่งสมาธิแล้วหลังงอ เป็นอิริยาบถนั่งที่ไม่ดี นั่งไปนาน ๆ อาจทำให้ปวดหลังได้ สาเหตุจากกล้ามเนื้อพยุงกระดูกสันหลังอ่อนแอ เรื่องนี้ต้องปรึกษานักกายบำบัดช่วยแก้ไขให้ การฝึกจิตให้มีสติสามารถทำได้ในทุกอิริยาบถ เช่น ยืน เดิน นั่ง นอน กิน ดื่ม พูด ฟัง ฯลฯ อิริยาบถใด ใช้แล้วมีปัญหา น่าจะเลี่ยงไปใช้อิริยาบถอื่นฝึกจิตให้มีสติได้เช่นเดียวกัน
   ฝึกสติแล้วจิตไม่สงบ ต้องหันกลับมาดูตัวเองว่า มี ศีลคุมใจ ได้ครบ 5 ไหม ถ้ามีศีล 5 อยู่ในใจตลอดเวลา โอกาสฝึกจิตให้มีสติทำได้ง่าย เกิดสมาธิตามมาได้เร็ว อีกปัจจัยหนึ่งคือ ความเพียร ในหนึ่งวันมี 24 ชั่วโมง คุณใช้เวลาฝึกสตินานกี่ชั่วโมง และปล่อยเวลาให้จิตขาดสติ รับสิ่งกระทบภายนอกมาปรุงแต่งอารมณ์ยาวนานแค่ไหน ถ้าลดเวลาที่ปล่อยจิตให้ปรุงอารมณ์ให้น้อยลง แล้วเพิ่มเวลาให้กับการฝึกสติให้มากยิ่งกว่า โอกาสจิตตั่งมั่นเป็นสมาธิจะเกิดได้ง่าย

142.
เรียนอาจารย์ดร.สนอง วรอุไรที่เคารพอย่างสูง
ผมมีคำถามเรียนถามดังนี้ครับ
1.พระโสดาบัน โสดาผล ทำไมถึงปิดนรก ปิดอบายภูมิได้ครับ

คำตอบ
    คำว่าโสดาบันเป็นสมมติบัญญัติ ใช้สำหรับเรียกอริยบุคคลผู้เข้าถึงโสดาปัตติผลญาณ เป็นผู้ที่ละกิเลสที่ผูกมัดใจสัตว์ (สังโยชน์) เบื้องต่ำ 3 อย่าง ได้คือ ละความเห็นอันเป็นเหตุให้ยึดถือความเป็นตัวตน (สักกายทิฏฐิ) ละความสงสัย (วิจิกิจฉา) ในพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ และละความเห็นว่ามีศีลเพียงอย่างเดียวแล้วปฏิบัติตามศีลก็สามารถทำให้บริสุทธิ์หลุดพ้นได้ (สีลพตปรามาส)
   พระโสดาบันเมื่อสิ้นชีวิตแล้วไม่ลงไปเกิดในอบายภูมิ (ปิดอบายภูมิ) ด้วยเหตุที่มีจิตใจเลื่อมใสมั่นคงในพระรัตนตรัย และเป็นผู้มีศีลที่พระอริยเจ้ายินดี มั่นคงอยู่ในจิตใจตลอดเวลา พระพุทธเจ้าตรัสกับพระอานนท์ไว้อย่างนี้


2.ปฎิบัติอย่างไรจึงสามารถเข้าสู้เส้นทางของพระโสดาบัน โสดาผลได้ครับ

คำตอบ
    จะเข้าสู่ความเป็นโสดาบันได้ ต้องปฏิบัติตนตามมรรค 8 (หรือ ศีล สมาธิ ปัญญา) มีปัญญาเห็นแจ้งว่า สรรพสิ่งที่เข้ากระทบจิตเป็นไปตามกฎไตรลักษณ์มีความดับไปเป็นธรรมดา เป็นสิ่งที่ไม่มีตัวตน (อนัตตา) จิตปล่อยวาง จิตเป็นอิสระต่อสรรพสิ่ง เห็นอย่างนี้และจิตเป็นอิสระได้อย่างนี้ ความเป็นโสดาบันจึงเกิดขึ้น

3.บุคคลที่อยู่ในขั้นพระโสดาบัน โสดาผล สามารถรู้ตนเองไหมว่าตนเข้าสู่ขั้นโสดาผล แล้วครับ
กราบเรียนถามอาจารย์ด้วยความเคารพครับ
พรชัย ม้าวิไล

คำตอบ
    พระโสดาบันจะรู้เห็นด้วยตนเอง (สนฺทิฏฐิโก) ว่าจิตได้เข้าสู่ความเป็นโสดาบันแล้ว เป็นเรื่องธรรมชาติของจิตที่เป็นสัมมาทิฏฐิจะเห็นว่าสิ่งใดสิ่งหนึ่งมีการเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งปวงย่อมมีความดับไปเป็นธรรมดา จิตมีความเห็นถูกอย่างนี้และปราศจากอารมณ์ปรุงแต่ง

141.
กราบเรียน ดร.สนอง วรอุไร ที่เคารพ
ดิฉันมีข้อสงสัยในเรื่องสติอยากเรียนถามค่ะ
คอยถามตัวเองอยู่เสมอ เวลาเผลอๆ คิดเรื่องโน้นเรื่องนี้ (ที่ไม่ใช่เรื่องที่ทำอยู่) ค่ะ ว่า
     "นี่ฉันกำลังทำอะไรอยู่"
เช่นนี้ เรียกว่าเป็นการ "มีสติ" ได้หรือไม่คะ

ขอบพระคุณค่ะ
เก้า ณ กันยา

คำตอบ
  เผลอไปคิดเรื่องโน้นเรื่องนี้เป็นอาการของคนขาดสติ เมื่อระลึกได้ (สติ)ว่า “ นี่ฉันกำลังทำอะไรอยู่ ” ระลึกรู้อย่างนี้เรียกว่ามีสติ ถ้ายังต้องถามตัวเองอยู่บ่อย ๆ แสดงว่ามีสติอ่อน ถ้าถามตัวเองน้อยลงแสดงว่ามีสติเพิ่มขึ้น ถ้าไม่ต้องถามตัวเองเลยและจิตระลึกรู้อยู่กับหรือจดจ่ออยู่กับอิริยาบถที่เป็นปัจจุบัน หรือจิตไม่ออกไประลึกรู้สิ่งที่อยู่นอกตัว เป็นเครื่องบ่งชี้ว่ามีสติกล้าแข็ง

140.
กราบเรียนท่านอาจารย์ค่ะ
ต้องขอรบกวนอาจารย์ในการชี้แนะทางที่ถูกที่ควร และขอขอบพระคุณที่ท่านได้กรุณาสละเวลาค่ะ คำถามของหนู คือ

  ขณะนี้คุณพ่ออายุ 76 ปี มีภาวะที่จิตใจเศร้าหมอง กลัวลูกลำบาก กลัวสิ่งต่าง ๆที่ยังไม่เกิดวิตกกังวลไปล่วงหน้า ประกอบกับมีโรคความดัน โรคเก้าต์ ต่อมลูกหมากโต และไส้เลื่อนซึ่งผ่าตัดแล้ว รวมทั้งโรคเหงา เมื่อจิตใจไม่ปกติ ร่างกายก็ยิ่งแย่ไปด้วย ทานไม่ได้ ไม่อยากอาหาร เบื่อชีวิต ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ลูก ๆ แต่ละคนโตกันหมด ไม่มีอะไรน่าห่วง แต่พ่อก็ยังห่วง หากเมื่อได้รับอารมณ์ใดๆมากระทบก็จะคล้อยตามอารมณ์นั้น ทั้งดีและไม่ดี ยิ่งถ้าไม่ดีก็ยิ่งเศร้าไปใหญ่ ปกติคุณพ่อไปวัดทุกวันพระ เป็นคนทำบุญกุศลมาตลอด แต่ขณะนี้ดูเหมือนท่านคิดว่าตัวเองยังทำดีไม่พอ คิดว่าตัวเองมีกรรมที่ทำให้ต้องเป็นแบบนี้ หนูและพี่ ๆ น้อง ๆ พยายามปลอบใจดูแลให้กำลังใจพ่อเต็มที่ แต่ก็เหนื่อยใจที่ว่าไม่เป็นผลเพราะพ่อฟังแต่ไม่ทำตาม หนูพยายามพูดเตือนสติและให้กำลังใจให้พ่อปล่อยวางอย่ายึดติด พ่อก็ยังเหมือนเดิม หนูพยายามคิดว่าหรือจะเป็นภาวะของผู้สูงอายุ แต่หนูต้องพูดแบบเดิม ๆ ซ้ำ ๆ โดยหวังว่าจะช่วยให้พ่อคลายกังวลต่าง ๆ ลงบ้าง จนบางทีก็กลายเป็นบ่นว่า ถึงดุพ่อค่ะ แต่หนูมีเจตนาดี อยากให้พ่อมีสติ ไม่ฟุ้งซ่าน คำถามคือการที่หนูดุหรือบ่นพ่อด้วยความหวังดี จะบาปไหมคะ และหนูจะใช้อุบายอย่างไรให้พ่อค่อย ๆ คลายความยึดติดลงได้ หนูเองก็พยายามแก้ที่ตัวเองก่อนนะคะ โดยไม่ทำตัวให้พ่อต้องห่วงกังวล พยายามเป็นเพื่อนคุยกับพ่อ ใกล้ชิดมากขึ้น คือหนูกลัวว่า การที่พ่อทำดีมาตลอด แต่เกรงว่าจิตวาระสุดท้ายจะไม่ดีค่ะ ขอความกรุณาอาจารย์ช่วยชี้แนะด้วยค่ะ

กราบขอบพระคุณค่ะ
เด็กสวนบางมดค่ะ

คำตอบ
    ในฐานะที่เป็นลูก ดุหรือบ่นเป็นกริยาที่ไม่สมควรจะใช้กับบุพการี แม้ว่าจะทำด้วยความหวังดีก็ตาม ควรพูดแนะนำด้วยเหตุและผล
    ส่วนเรื่องที่จะให้พ่อไม่เป็นห่วงลูก ๆ และคลายความยึดติดลูกต้องสร้างศรัทธาให้พ่อเห็นว่า ลูกทุกคนมีความพร้อมด้วยปัจจัยในการดำเนินชีวิต มีความสุข และทำตัวให้เป็นที่พึ่งกับพ่อได้ เช่น พาท่านไปทำบุญที่วัด พาท่านไปโรงพยาบาล พาท่านไปหาหมอ เพื่อรับคำปรึกษาแนะนำรักษาโรคของท่าน ฯลฯ
   เรื่องการไปทำบุญที่วัดทุกวันพระของพ่อ แสดงว่าท่านมีจิตใจโน้มนำไปทางกุศล ลูกแต่ละคนที่อยู่ใกล้ ควรจัดเวรรับภาระจัดเตรียมอาหารและนำท่านไปวัด รับศีลจากพระ ฟังธรรม แล้วเจริญกรรมฐานที่เหมาะสมกับวัยของท่าน ลูก ๆ ควรทำเป็นตัวอย่างให้พ่อดูได้ก่อนแล้วชักชวนให้ท่านทำตาม สวดมนต์ไหว้พระเป็นประจำทุกวัน ทำไปตลอดชีวิต ที่แนะนำมาทั้งหมดนี้ หากลูกทำได้ครบถ้วนแล้วท่านยังปฏิเสธก็ต้องปล่อยวาง ถือว่าสัตว์โลกเป็นไปตามกรรม


139.
กราบเรียนอาจารย์สนองที่เคารพ
ดิฉันมีปัญหาสงสัยขอเรียนถามอาจารย์ค่ะ
    1.ดิฉันเคยนับถือเจ้าแม่กวนอิม เคยบนบานไว้หลายอย่างแล้วได้ แต่ตอนนี้ดิฉันไม่เชิงเลิกนับถือ แต่ไม่ได้สวดมนต์แล้วไม่ได้ทำตามที่เคยบนไว้เพราะดิฉันมาคิดได้ว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับกรรม ของเราเอง ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ดิฉันควรจะต้องทำอย่างไรเกี่ยวกับกรณีค่ะ

คำตอบ
   การสวดมนต์สรรเสริญคุณของพระโพธิสัตว์ สวดแล้วดี สวดแล้วเป็นมงคล ถ้ามีโอกาสควรสวดบ่อย ๆ
   ส่วนเรื่องการบนบาน เป็นการขอร้องให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วย เมื่อสำเร็จแล้วมีการให้สิ่งตอบแทน ถือว่าติดสินบนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระพุทธะไม่แนะนำให้พุทธบริษัททำ แต่แนะนำให้ตั้งจิตปรารถนา (อธิษฐาน) ให้ได้ในสิ่งที่ตนเองต้องการ ที่สำคัญเมื่ออธิษฐานแล้วต้องสร้างเหตุให้ตรงกับที่อธิษฐานไว้เมื่อใดที่เหตุปัจจัยลงตัว สิ่งที่อธิษฐานจะสัมฤทธิ์ผลแล้วไม่ต้องให้สิ่งตอบแทนแก่ผู้ใดทั้งสิ้น เพราะนี้เป็นผลงานที่เกิดจากการกระทำของตนเองเป็นไปตากกฎแห่งกรรม
   หากคุณไม่นับถือท่านแล้วและมิได้ทำตามที่เคยบน ควรขออโหสิกรรมและอธิษฐานจิตให้ท่านทราบ และขอขมาท่าน เพื่อไม่ให้เป็นผลเสียกับตัวคุณต่อไปที่ไม่รักษาสัจจะ


    2.ดิฉันเคยฟังจากอาจารย์ที่เคยพูดเรื่องรักษาสัจจะ ดิฉันชอบพูดชอบบนแต่ไม่ค่อยทำได้อย่างที่ พูด แต่ตอนนี้ถ้าดิฉันจะเริ่มใหม่ที่เคยพูดแล้วทำไม่ได้แต่ตอนนี้จะพูดแต่ในสิ่งที่ทำได้จริงๆ แล้วที่ ดิฉันเคยพูดไว้จะเกิดผลเสียหรือเปล่าคะ

คำตอบ
   สัจจะเป็นคุณธรรม ผู้ใดทำได้แล้วจิตเก็บสั่งสมเป็นบารมี ผู้ที่มีสัจจะบารมี คิด พูดหรือทำสิ่งใดแล้วจะสมปรารถนาได้ง่าย คำพูดใดที่ออกจากปากไปแล้ว ผู้พูดมีสัจจะทำได้ตรงตามที่พูด จะให้ผลเป็นความศักดิ์สิทธิ์ ทำให้ผู้ฟังเชื่อถือศรัทธา ปรารถนาสิ่งใดสำเร็จได้ง่าย
    ดังตัวอย่างของพระโพธิสัตว์ ตอนไปเกิดเป็นพญาปลาช่อนอาศัยอยู่ในหนองน้ำแห่งหนึ่ง พญาปลาช่อนไม่กินสัตว์เล็กสัตว์น้อยเป็นอาหาร เพราต้องการบำเพ็ญบารมี ฤดูแล้งเข้ามาถึงน้ำในหนองงวดลง ฝูงนกกระยางต่างรุมกินปลาเล็กปลาน้อยเป็นอาหาร เกิดความสงสารคิดช่วยเหลือปลาเล็กปลาน้อย จึงได้อ้างเอาสัจจะที่ตนเองไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ได้กินสัตว์อื่นเป็นอาหาร เป็นพื้นฐานของการอธิษฐานขอฝนให้ตกลงมาเพื่อรักษาชีวิตของปลาเล็กปลาน้อยให้คงอยู่ ในที่สุดฝนตกลงมา มีน้ำฝนขังเต็มหนองน้ำ ความปรารถนาของพญาปลาช่อนสำเร็จเพราะอ้างเอาสัจจะเป็นบาทฐาน สนับสนุนความปรารถนาของตน

    3.หลังจากที่อาจารย์กลับจากวัดครั้งแรกที่อาจารย์บอกว่าได้ของดีมาแล้วอาจารย์ไม่ทิ้งนั้น อาจารย์มาทำอะไรต่อคะ อาจารย์มาเดินจงกรม นั่งสมาธิต่อทุกวัน หรือกลับไปเข้ากรรมฐาน เป็นระยะ
                     กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ค่ะ
คำตอบ
   การรักษาความดีให้คงอยู่ ต้องทำใจให้มีกำลังกล้าแข็งด้วยการเจริญอินทรีย์ ๕ (พละ๕) อยู่เสมอ แล้วให้กำลังของสติกำลังของปัญญาเห็นแจ้งส่องนำทางให้กับชีวิต ทุกขณะตื่นมีสติระลึกได้ทันสิ่งกระทบที่เข้าทางทวารทั้ง ๖ (หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ) และมีปัญญารู้ทัน เห็นว่าสิ่งกระทบดับไป (อนัตตา) จิตปล่อยวาง ไม่เป็นทาสของสิ่งกระทบ จิตเป็นอิสระความดีที่ทำได้แล้วไม่สูญหายแต่จะมีเพิ่มมากขึ้น
    ผู้ตอบคำถามรักษาความดีให้คงอยู่ด้วยวิธีนี้ มิได้นั่งบริกรรมหรือเดินจงกรมเหมือนตอนที่ไปฝึกใหม่ ๆ ใช้สติและสัมปชัญญะ (ปัญญาเห็นแจ้ง) นำทางให้ชีวิตทุกขณะตื่น โดยรู้เท่าทันไม่เป็นทาสของมาร อย่างที่ “ มือโปร ” หรือ “ จอมยุทธไร้กระบวนท่า ” เข้าทำกันนั่นแหละ


138.
สวัสดีค่ะอาจารย์สนองที่เคารพยิ่ง
    ดิฉันอยากเรียนถามว่าถ้าเพื่อนขอยืมเงินไปซื้อปลาเป็นๆ มาแช่แข็งขายที่ตลาด ถ้าเราสงสารเพื่อนให้ยืมเงินไป ผู้ที่ให้ยืมเงินจะผิดศีลข้อ 1 ด้วยหรือเปล่าคะและต้องได้รับกรรมด้วยหรือเปล่าคะ

คำตอบ
   ก่อนที่จะตอบขอยกตัวอย่างว่า นาย ก. และนาย ข. กำลังราวีกันคุณหยิบไม้ส่งให้นาย ก. เป็นอาวุธ คุณได้นาย ก. เป็นเพื่อนคุณได้บุญ นาย ก. ใช้ไม้ไปตีหัวนาย ข. คุณได้นาย ข. เป็นศัตรู คุณได้บาป
  เช่นเดียวกัน คุณให้เงินเพื่อนยืม คุณได้บุญ เพื่อนเอาเงินยืมไปลงทุนด้วยการซื้อปลาเป็นไปขาย ในทางโลกไม่ผิดกฎหมาย แต่ในทางธรรมเป็นมิจฉาอาชีวะ และผิดศีลข้อปาณาติบาตฯ ถือว่าคุณมีส่วนร่วมในการทำบาป , เมื่อใดที่กรรมให้ผล คุณจะได้รับทั้งกุศลวิบากและอกุศลวิบากได้เพื่อนหนึ่งคน แต่ได้ศัตรูมากหลาย ศัตรูคงร่วมกันราวีคุณให้อยู่ไม่มีความสุข และถ้าปลาบางตัวเป็นผู้ที่เคยมีคุณธรรมสูงมาเกิดหรือเป็นพระโพธิสัตว์มาเกิดเป็นปลาเพื่อบำเพ็ญบารมี อานิสงส์ของบาปจะรุนแรง และอาจวิบัติถึงต้องตายก่อนวัยอันควรได้
  แต่ถ้าคุณไม่ทราบว่าเขาเอาเงินไปทำอะไร คุณได้บุญล้วน ๆ

137.
กราบเรียน ท่านอาจารย์สนองที่เคารพอย่างสูงค่ะ

ดิฉันได้มีโอกาสฟังท่านอาจารย์ บรรยายธรรมจากอินเตอร์เน็ต เกิดซาบซึ้ง และยิ่งศรัทธาในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก ดิฉันอายุ 29 ปี อาศัยและทำงานอยู่ต่างประเทศกับสามีชาวต่างชาติ ยังไม่มีบุตรเมื่อวันแม่ที่ผ่านมา ดิฉันได้มีโอกาสกลับเมืองไทย และได้ไปบวชชีพราหมณ์เพื่อทดแทนพระคุณแม่เป็นเวลา 3 วัน ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรกที่ดิฉันได้บวชชี และระลึกอยู่เสมอว่าถ้ามีโอกาสดิฉันอยากบวชชีในบั้นปลายชีวิต

ดิฉันมีปัญหารบกวนถามท่านอาจารย์ดังนี้ค่ะ
1. ดิฉันอยากให้พ่อกับแม่ของดิฉันปล่อยวาง เลิกหลงใหลในวัตถุ หันหน้าเข้าวัดฟังธรรมให้มากกว่าที่เป็นอยู่ มีทางไหนบ้างคะที่ดิฉันพอจะช่วยพ่อกับแม่ได้บ้าง

คำตอบ
   อยากให้พ่อแม่ปล่อยวาง เป็นความคิดที่ดี พระพุทธะสอนมิให้แก้ปัญหาที่ผู้อื่น แต่สอนให้แก้ปัญหาที่ตัวเอง ด้วยการทำตัวเองให้เป็นผู้ปล่อยวางได้ก่อน ทำตัวเองให้เป็นตัวอย่างที่ดีไห้พ่อแม่ดูเป็นตัวอย่าง เมื่อใดทั้งพ่อและแม่เกิดความศรัทธาในตัวลูก และปรารถนาจะทำได้อย่างลูก เมื่อนั้นเหตุปัจจัยลงตัวลูกสอนพ่อแม่ถึงวิธีปล่อยวางได้
   

2. สามีดิฉันไม่ศรัทธาในพระพุทธศาสนาแต่ก็ไม่ได้คัดค้านที่ดิฉันเป็นพุทธศาสนิกชน ดิฉันอยากทำบุญร่วมชาติกับสามีต้องทำอย่างไรคะ ดิฉันอยากให้เขาได้รับส่วนบุญและกุศลด้วยค่ะ

คำตอบ
  อยากให้สามีมีส่วนร่วมในการสร้างบุญกุศล เป็นความคิดที่ดีแต่ถ้าเขาเป็นคนดี(มีคุณธรรม) และเป็นคนสะอาด(มีศิล)อยู่แล้ว ก็แสดงว่าเขาเป็นคนมีบุญ การที่จะไปทำให้คนอื่นมาเป็นอย่างที่ตัวเองต้องการ นั่นเป็นความเห็นแก่ตัว นักปราชญ์หรือคนมีปัญญาเขาไม่ทำกัน ที่เขาไม่ศรัทธานั้นเป็นความถูกต้องของเขา ที่เขาไม่คัดค้านในวิธีการสร้างบุญกุศลของคุณนั้นเป็นความดีของเขา แค่นั้นน่าจะพอแล้วสำหรับการเป็นสามีที่ดี

3. ภายในปีหน้าดิฉันกับสามีวางแผนกันไว้ว่าจะมีบุตรด้วยกัน ดิฉันอยากได้คนดี มีหิริโอตัปปะมาเกิดเป็นบุตร ดิฉันและสามีต้องปฏิบัติตัวและใจอย่างไรคะ ถึงจะได้สิ่งนั้นมา

ดิฉันขอกราบขอบพระคุณในความเมตตาของท่านอาจารย์เป็นอย่างสูงค่ะ
ลมัย


คำตอบ
  ปีหน้าอยากมีบุตร ไม่ยาก ถ้าระบบสรีระของทั้งคู่มีความสมบูรณ์แข็งแรง ก็ขอความร่วมมือจากสามี ถ้าเขาไม่ขัดข้องความสำเร็จคงจะเกิดขึ้นส่วนจะได้ลูกประเภทไหนมาเกิดกับคุณ อยู่ที่คุณกำหนดคุณสมบัติของลูกไว้อย่างไร เสร็จแล้วคุณต้องสร้างมหาทาน อธิษฐานคุณสมบัติของผู้ที่จะมาเกิดเป็นลูก แล้วต้องสร้างเหตุของผู้เป็นแม่ให้เหมาะสมที่ปฏิสนธิวิญญาณจะมาเกิด ตัวอย่างปฏิสนธิวิญญาณที่จะมาเกิดเป็นลูก ต้องมาจากสุขติภูมิ ต้องมีความเห็นถูกต้องเอาสวรรค์สมบัติมาด้วย เอาบริวารมาด้วยฯลฯ แล้วคุณต้องสร้างเหตุให้ตรง คือ รักษาศิลอย่าให้ขาดตกบกพร่อง ต้องไห้ทานอยู่เสมอ ทำตัวเองให้เป็นผู้มีความเห็นถูกต้อง ทำตัวเองให้เป็นคนเย็น มีเมตตา มีความสงสาร(กรุณา)อยากช่วยคนอื่น ถ้าทำตัวเองให้ได้อย่างนี้แล้ว จึงขอความร่วมมือจากสามีให้ช่วยสร้างรูป(ร่างกายของเด็ก)ให้ เพื่อรองรับปฏิสนธิวิญญาณมาเข้าในรูปที่สร้างขึ้นนั้น คุณก็จะได้บุตรที่มีลักษณะตรงตามที่กำหนดไว้ ลูกเกิดมาแล้วไม่สร้างปัญหา พ่อแม่มีความสุข.

136.
กราบเรียนอาจารย์สนองที่เคารพ
       หนูมีโอกาสได้ฟังอาจารย์บรรยายธรรมจากinternetโดยบังเอิญ[ หนูไปปฎิบัติธรรมกลับมา
หนูสนใจฟังธรรมะเพิ่ม จึงหาฟังในinternet ]
      หลังจากได้ฟังอาจารย์บรรยายธรรมในครั้งแรก หนูก็รู้สึกศรัทธาในตัวอาจารย์มาก ชอบวิธี
การพูด น้ำเสียงของอาจารย์และเรื่องที่อาจารย์พูดดูจะเป็นเรื่องที่ทันสมัย เข้าใจง่ายเหมาะกับ
คนในสังคมปัจจุบัน หนูจึงติดตามฟังธรรมะบรรยายของอาจารย์เกือบทุกเรื่องที่มีในชมรม
กัลยาณธรรม หนูจะเปิดฟังซ้ำครั้งแล้วครั้งเล่าไม่เคยเบื่อ เวลาหนูฟังธรรมะของอาจารย์หนูจะมี
ความสุข รู้สึกสงบ ความโลภ โกรธหลงก็ลดลง บางทีหนูสงสัยอะไรก็ให้ช่างบังเอิญเปิดฟังเรื่อง
ที่อาจารย์พูดและเหมือนจะมีคำตอบในเรื่องที่หนูสงสัยอยู่พอดี และก็น่าแปลก หนูฟังธรรมะของ
อาจารย์ซ้ำๆในเรื่องเดียวกัน แต่ความรู้ที่ได้รับก็แตกต่างกันไปไม่เหมือนเดิม
      อาจารย์คะ ถ้าเป็นไปได้ หนูอยากทราบวิธีการปฏิบัติของอาจารย์อย่างละเอียดว่าอาจารย์ใช้
ชีวิตอย่างไรทั้งทางโลกและทางธรรมเพื่อที่หนูจะนำไปเป็นแบบอย่างใช้บ้าง หรืออาจารย์ช่วย
แนะนำหนูด้วย หนูอยากเจริญก้าวหน้าในทางธรรมแต่หนูมีครอบครัวมีภาระไม่สามารถปฏิบัติ
ได้เต็มที่ ตอนนี้ก็ได้แต่กำหนดสติในชีวิตประจำวัน ถือศีล 5 และเดินจงกรม นั่งสมาธิบ้างแต่ไม่
บ่อย
               ด้วยความเคารพอาจารย์ค่ะ

คำตอบ
   วิธีปฏิบัติธรรมของผู้ตอบคำถาม อยากจะรู้ว่าทำอย่างไร ต้องดู website หรืออ่านหนังสือเรื่อง ทางสายเอก ผลสุดท้ายได้สติระลึกทันสิ่งกระทบที่เข้าทาง หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ และได้ปัญญาเห็นแจ้งเกิดขึ้น
    ปัจจุบันใช้สติและปัญญาเห็นแจ้งนำทางให้กับชีวิต เห็นทุกอย่างที่เข้ากระทบจิตดับหมดไม่มีตัวตน จิตจึงปล่อยวางสิ่งกระทบ จิตเป็นอิสระไม่เป็นทาสของสิ่งที่เห็น หูได้ยิน ลิ้นสัมผัสรสชาติ ฯลฯ จิตจึงมีอารมณ์สงบ(อุเบกขา) พร้อมกับเกิดปัญญารู้เท่าทันสรรพสิ่ง จึงได้ใช้ปัญญาเห็นแจ้งนี้ไปบอกกล่าวผู้ที่สนใจจะพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้น พร้อมทั้งใช้ปัญญาเห็นแจ้งนี้มาตอบปัญหาผ่านทาง website นี้แหละ

135.
1.ดิฉันอยากทราบว่าคนที่ทำงานเดียวกับดิฉันเป็นเพื่อนร่วมงาน รับราชการ มีหน้าที่ตักอาหาร
ให้คนไข้และถ้าอาหารเหลือแล้วเอาไปรับประทานที่บ้านจะผิดศีลหรือเปล่าคะ

คำตอบ
อาหารที่เหลือจากตักให้คนไข้ ถ้าผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ ควบคุม ดูแล(เจ้าของ)เกี่ยวกับอาหาร อนุญาตให้ผู้อื่นที่มิใช่คนไข้รับประทานได้ จะนำกลับไปรับประทานที่บ้านถือว่าไม่ผิดศิลข้อ อทินนาฯ เพราะเจ้าของอนุญาตแล้ว ถ้าเขายังมิได้เอ่ยปากให้นำกลับไปบ้านได้ ต้องขออนุญาตและได้รับความเห็นชอบจากเขาเสียก่อนจึงจะนำกลับไปบ้านได้โดยไม่ผิดศิล

2.ดิฉันมีบุตร1คนเป็นชายอายุย่าง11ปี มีนิสัยก้าวร้าวเอาแต่ใจ ชอบด่าและตีพ่อแม่ ดิฉันควร
แก้ไขอย่างไรค่ะ ดิฉันทราบว่าเป็นกรรมที่ดิฉันทำไว้กับพ่อแม่ เมื่อก่อน ทั้งเถียงไม่เชื่อฟังบางครั้ง
โกรธเคยพลั้งมือตีพ่อแม่บ้าง ดิฉันเห็นกริยาของลูกแล้วนึกย้อนเห็นภาพตัวเองในวัยเด็ก มอง
ลูกแล้วเห็นตัวเอง แต่ดิฉันคิดว่าตัวเองทำไม่เท่าครึ่งหนึ่งที่ลูกทำกับดิฉันตอนนี้ดิฉันกลัวบาป
กรรมมาก ที่สำคัญดิฉันกลัวลูกต้องโดนอย่างตัวเองต่อไป

คำตอบ
ถ้าคุณเชื่อพระพุทธะว่า
สิ่งไม่ดีที่ได้กระทำไว้ก่อนแล้วจะกลับมาตอบสนองผู้กระทำให้ได้รับความเดือดร้อนในภายหลัง(กิเลศ-กรรม-วิบาก)

และถ้าคุณยอมรับความจริง คุณต้องยอมใช้หนี้กรรมเก่าที่ไม่ดี ใช้หนี้มากกว่าที่ได้กระทำไว้หลายเท่าเพราะ พ่อแม่เป็นผู้มีคุณธรรมสูง ใช้หนี้กรรมไม่ดีจนกว่าจะหมดไปและต้องไม่สร้างหนี้ใหม่(อกุศลกรรม)ขึ้นอีก



3.เมื่อกันยา47 ดิฉันมีโอกาสได้ไปปฏิบัติธรรมหลักสูตรคุณแม่สิริ กรินชัย 7วัน ออกมาดิฉันเห็น
ความเลวของตัวเองมาก ทั้งที่ก่อนเข้าดิฉันคิดว่าตัวเองเป็นคนดีคนหนึ่ง หลังจากนั้นดิฉันมี
โอกาสเข้าหลักสูตรนี้อีก2-3ครั้ง แต่ยิ่งทำยิ่งปฏิบัติดิฉันยิ่งเห็นกิเลสของตัวเองมากขึ้นทุกวัน
ดิฉันเบื่อหน่ายเห็นแต่ความทุกข์ไม่อยากเกิดอีกแล้ว แต่ในขณะเดียวกันความทุกข์แบบเดิมๆ
ก่อนเข้ากลับน้อยลง แต่ก็ไม่มีความสุข เป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก ทั้งที่ก่อนปฏิบัติธรรมดิฉัน
คิดว่าตัวเองก็มีความสุขดี
ดิฉันควรแก้ไขหรือทำอย่างไรต่อไปดีคะ
ขอกราบขอบคุณท่านอาจารย์ค่ะ

คำตอบ
เรื่องนี้เป็นธรรมดาของผู้ที่ใช้ภาวนามยปัญญา ส่องดูตัวเอง จะเห็นข้อบกพร่องของตัวเองจนเกิดเป็นความเบื่อหน่าย เห็นแต่ความทุกข์จนไม่อยากเกิดอีกแล้ว

ปัญหามีอยู่ว่า ทำอย่างไรจึงจะพ้นไปจากทุกข์ แห่งการเวียนตาย-เวียนเกิดได้ พระพุทธะท่านเมตตาชี้ทางพ้นทุกข์ไว้นั่นไง คือ มรรค 8 หรือถ้าจะให้หดสั้นเข้าคือ ปฏิบัติธรรมด้วยตัวเอง ตามแนวของ ศิล-สมาธิ-ปัญญา สิ่งที่คุณทำอยู่คือ เข้าปฏิบัติธรรมมา 3 ครั้งแล้ว ทำไมไม่ปฏิบัติต่อไป เป็นครั้งที่ 4,5,6,7 ไปเรื่อยๆจนกว่าจะมีปัญญาเห็นแจ้งมากขึ้นแล้วทุกข์ที่มีอยู่ในใจก็จะหมดไปๆ ใจมีความเป็นอิสระมากขึ้นๆ ต้องปฏิบัติให้ใจเป็นอิสระต่อสรรพสิ่งได้หมด แล้วโอกาสพ้นไปจากการเวียนตาย-เวียนเกิด จะมีได้เป็นได้



134.
กราบเรียน ท่านอาจารย์สนองที่เคารพ

ดิฉันมีคำถาม 2 ข้อที่จะขอคำแนะนำจากอาจารย์
เพื่อนำไปปฏิบัติแก้ทุกข์และแก้ไขตนเองค่ะ

1. ดิฉันอยากทราบว่าเพราะทำกรรมอะไรไว้คะ
ถึงทำให้ต้องตกงานซ้ำซาก หรือบ่อย ๆ คะ?
จะแก้ไขอย่างไรคะ?
ตอนนี้ดิฉันตกงานได้ 7-8 เดือนแล้วค่ะ
และเคยตกงานมาก่อนหน้านี้ 3 ครั้ง
ดิฉันจมอยู่ในกองทุกข์มาตลอดเพราะมีแรงกดดันรอบข้างอีกด้วย
ทำให้มีความสงบเพียงแค่เวลาที่ได้นั่งสมาธิหรือเจริญสติเท่านั้นค่ะ
ใจของดิฉันมีทุกข์ปนอยู่ในอารมณ์อื่น ๆ อยู่เสมอ
ทำให้จิตใจไม่เบิกบานเสียเลย

คำตอบ
  สาเหตุที่ทำให้ตกงานซ้ำซาก ให้ดูตัวเองและปรับปรุงแก้ไขตัวเองดังนี้
•  ศักยภาพตัวเองต่ำ คือ ด้วยในความรู้ความสามารถ ( IQ ต่ำ) ต้องเรียนรู้เรื่องงานให้มากและทำให้เป็น ทำงานให้ได้ผลสำเร็จ
•  ความกตัญญูกตเวทีต่อบรรพบุรุษหรือต่อผู้มีพระคุณมีน้อยหรือไม่มี ทำให้ไม่พบความสำเร็จในหน้าที่การงาน
•  ความขยันมีไม่มากพอ ต้องแก้ตัวเองให้การทำงานมีอิทธิพลอยู่เหนือกาลเวลา อย่าให้เวลามามีอิทธิพลกำหนดการเริ่มทำงานหรือการเลิกงาน



2. จริง ๆ แล้ว ดิฉันรักแม่มาก ๆ มีความสิ่งดี ๆ
หลายเรื่องที่คิดจะทำให้ท่าน ตอบแทนบุญคุณท่าน
แต่ก็ไม่มีโอกาสได้ทำเสียทีเพราะจนถึงวันนี้ดิฉันยังเป็นที่พึ่งของตัวเองไม่ได้เลย

แต่มาเวลานี้ความรู้สึกอยากที่ตอบแทนบุญคุณนั้นกลับกลายเป็นความเกลียดชัง
เคียดแค้นขึ้นมา
ซึ่งมันสั่งสมมานานหลายปีและหลายเรื่องค่ะ
ดิฉันควรจะทำอย่างไรคะ?

กราบขอบพระคุณในความเมตตาของอาจารย์อย่างสูงค่ะ
เบญจพร

คำตอบ
สาเหตุที่ทำให้พึ่งตัวเองไม่ได้
๑. มีบุญสั่งสมน้อย แก้ไขโดยประพฤติปฏิบัติ บุญกิริยาวัตถุ ๑๐ อยู่เสมอ แล้วอุทิศ บุญกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรบ่อย ๆ
๒. มีความดี (คุณธรรม)สั่งสมน้อย แก้โดยประพฤติปฏิบัติ จริยธรรม ของลูกที่มีต่อพ่อแม่ , จริยธรรมของลูกจ้างที่ดีต่อนายจ้าง , จริยธรรมเพื่อนที่ดีต่อเพื่อนทุกคนฯลฯ


133.
ลูกสาวอายุ10ปีเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวและได้เสียชีวิตไปอยากถามว่าที่ลูกสาวเสียชีวิตเป็นเพราะลูกสาวไปทำกรรมอะไรไว้รึเปล่าหรือเป็นกรรมจากพ่อแม่
และเรื่องที่เค้าบอกว่าเด็กอายุน้อยๆที่เสียชีวิตส่วนใหญ่จะหนีมาเกิดอยากถามว่ามีข้อเท็จจริงยังไง


คำตอบ
เป็นกรรมร่วมระหว่างลูกที่มาอาศัยท้องเกิดกับกรรมของแม่ผู้ให้การอุ้มท้อง แล้วเลี้ยงดูหลังคลอดมาได้ 10 ปี

132.
กราบเรียนท่านอาจารย์สนองที่เคารพ

ดิฉันได้ฝึกวิปัสสนากรรมฐานมาระยะหนึ่งแล้ว
คิดอยากจะลองปฏิบัติแบบยอมตายถวายชีวิตบ้าง จึงขอเรียนถามท่านว่า
การอดทนปฏิบัติดูสภาวะจิตติดต่อต่อเนื่องกันไปเป็นเวลานานๆ เช่น
การไปนั่งปฏิบัติในบ้านผีดุเพื่อดูความกลัว
หรือนั่งปฏิบัติติดต่อกันทั้งวันเพื่อดูจิตดิ้นรนเพราะเวทนา
เป็นวิธีการปฏิบัติแบบเอาชีวิตเข้าแลกหรือยังคะ

เล็ก

คำตอบ

คนที่ปฏิบัติกรรมฐานแบบยอมตายถวายชีวิต ต้องพัฒนาจิตให้มีกำลังสติกล้าแข็งจึงจะทำได้ ถ้าไปนั่งที่บ้านผีดุแล้วยังมีความกลัว ยังไม่จัดว่ายอมตาย ถ้ายอมตายต้องไม่กลัวตายผีจะมาหลอก มาบีบคอให้ตาย ก็ยอมสละชีวิต อย่างนี้เรียกว่ายอมตาย เช่นเดียวกันการดูจิตดิ้นรนเพราะเวทนามีใช่การยอมตาย ถ้ายอมตายต้องยอมให้เกิดทุกขเวทนาจนสุดชีวิตก็จะไม่ยอมขยับเขยื้อน ไม่เปลี่ยนอิริยาบถ ยอมสู้กับทุกขเวทนาโดยเอาชีวิตเข้าแลก อย่างนี้เรียกว่ายอมตาย

131.
สวัสดีครับ อ.สนอง
คือผมอยากมีศรัทธาที่ถูกต้องและเต็มเปี่ยมต่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าครับไม่ทราบต้องปฏิบัติตัวอย่างไรคือปัจจุบันก็ศรัทธานะครับแต่รู้สึกว่ายังคลอนแคลนไม่มั่นคงอยู่ 
หัวมันคิดว่าควรศรัทธาอย่างสุดจิตสุดใจ แต่จิตใจบางทีเราไม่เป็นไปตามนั้น
ไม่ทราบว่าทำอย่างไรดีครับ
ขอบคุณครับ
อาร์ต

คำตอบ
ต้องเจริญอินทรีย์พละ 5( ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา) ให้กล้าแข็ง แล้วใจของคุณจะมีพลังมาก ศรัทธาต่อพระศาสนาจะไม่สั่นคลอน


130.
กราบท่านอาจารย์ดร.สนองที่เคารพค่ะ
   หนูชื่อแพรค่ะ หนูดีใจและรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากๆ ที่ได้มีโอกาสฟังการบรรยายธรรมของอาจารย์ จากเทป และจากไฟล์ wma ทางเน็ท หนูต้องขอกราบขอบพระคุณอาจารย์ที่มีเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ จึงทำให้หนูได้รับผลความเมตตานี้ด้วย หนูอยากฝากตัวเป็นศิษย์ได้มั๊ยค๊ะ หนูอยากรู้และอยากปฏิบัติธรรมมากค่ะ แต่ไม่ค่อยเข้าใจในพุทธศาสนามากนัก พยามยามฟังจากเทปธรรมะต่างๆ ก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง คงเป็นเพราะหนูมีปัญญาอันน้อยนิด จนกระทั่งได้มาฟังจากอาจารย์ ก็รู้สึกเข้าใจมากขึ้น เหลือแต่เพียงการเรียนรู้และเข้าใจด้วยตนเอง คงต้องใช้เวลาอีกนานค่ะ เพราะหนูยังติดเรื่องความกลัวอยู่มากๆ ไม่รู้จะทำอย่างไรให้หายกลัวผีค่ะ เวลกลัว มันเครียดมากๆ ค่ะ แค่ได้ยินเสียงแมวร้อง หรืออะไรผิดปกตินิดนึง เหงื่อก็จะออก ใจเต้น ตัวชาเลยค่ะ หนูจะทำอย่างไรดีค๊ะ มันทรมานจังเลย ทั้งที่ไม่เคยเห็น
   และอีกอย่างหนึ่งที่หนูเขียนมาถึงอาจารย์ครั้งนี้นั้น หนูอยากจะขออนุญาต อาจารย์ด้วยค่ะ ที่หนูนำเสียงของอาจารย์มาไร้ท์ลงแผ่นซีดี แจก ญาติพี่น้อง คุณแม่ และบุคคลที่หนูรัก เพราะอยากให้เขาได้รับรู้เหมือนอย่างที่หนูได้รับค่ะ น้าสาวกับน้าชายอีก 2คน ของหนู เขาก็ชอบเรื่องการปฏิบัติธรรมค่ะ แต่ว่าเขาไม่มีครูสอน เขาเคยนั่งสมาธิจน แยกกายละเอียดออกจากกายหยาบได้ และน้าชายคนนี้แหละค่ะ ที่สอนให้หนูรู้จักการทำสมาธิตั้งแต่หนูยังเรียนอยู่ชั้นประถม ถ้าหนูปฏิบัติอย่างจริงจังป่านนี้คงจะทำได้แล้วค่ะ เพราะว่าตอนนี้หนูอายุ 37ปีแล้วค่ะ แต่งงานและมีบุตร 2คนแล้ว ตอนท้องคนที่สองที่แหละค่ะ หนูรู้สึกว่าอยากฟังเทปธรรมะมากๆ ฟังทุกวัน ซึ่งตอนนั้นก็ไม่ทราบว่าท้อง ฟังจนหมดแล้วในบ้านเลยต้องโทรไปค้นหา จึงได้รู้จักเทปของอาจารย์จากบริษัทเทปนี่แหละค่ะ อย่างนี้เรียกว่าแพ้ท้องอยากฟังทำธรรมใช่มั๊ยค๊ะ
   หนูฟังจนตอนนี้ลูกสาวอายุ 5เดือนแล้วค่ะ ตอนใกล้คลอดก็ฝันเห็นพระพุทธชินราช องค์ใหญ่มากเป็นองค์สีทองตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ในฝันว่าชวนแม่ บอกแม่ว่าเดินเร็วๆจะรีบไปเอาพระองค์นั้น กลัวคนอื่นมาเอาไปค่ะ แล้วหนูก็แอบเห็นพระพุทธรูปนั้นแปลงร่างมาเป็นพระสงฆ์หนุ่ม ผิวขาวสูงโปร่ง หนูก็เดินเข้าไปหา พระก็พูดกับหนูว่า"ตั้งนาน ได้เท่านี้เองหรือ" แล้วก็ตื่นค่ะ ก็คงจะตำหนิหนูว่าไม่ปฏิบัติสักที และหนูอยากรู้ว่าลูกที่มาเกิดกับหนูนั้นเป็นใครค่ะ
   บางครั้งหนูก็นึกกลัวลูกค่ะ ว่าเขาเพิ่งมาเกิด ก่อนหน้านี้เขาก็ไม่ใช่คน ทำให้เกิดความกลัวอีกแล้วค่ะ อาจารย์ ช่วยหนูด้วยเถอะค่ะ ฉบับนี้หนูคงต้องรบกวนเวลาของอาจารย์เพียงเท่านี้ก่อนค่ะ หนูขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิทั้งปวง โปรดอวยพรและคุ้มครองให้อาจารย์เดินทางไปบรรยายธรรมโดยสวัสดิภาพ และมีความสุข มีสุขภาพแข็งแรงค่ะ
   กราบขอบพระคุณค่ะ
  แพร

คำตอบ
  - ยังไม่รับเป็นศิษย์ เพราะยังไม่มีสติต้องตั้งใจมากขึ้น แล้วมาคุยกันใหม่

  - กลัวผี แสดงว่าขาดสติ ฟังทางสายเอกแล้วเอาอย่างอาจารย์ไม่ต้องกลัวผี

  - อนุญาตให้ เผยแผ่ธรรมบรรยายแจกเป็นธรรมได้ อนุโมทนา

129.
กราบสวัสดี อาจาร์ยสนองคะ
  จากที่ติดตามฟังเรื่องจิตดวงสุดท้าย ว่าหากจิตใจเราใฝ่คิดได้ในเรื่องใดเป็นหลัก จิตนั้นก็จะไปจุติทันที ณ ผลแห่งจิตที่คิดอย่างนั้น ตัวอย่างที่อาจารย์เคยกล่าวถึง ผู้หญิงที่ประสบอุบัติเหตุ แล้วได้ไปท่องอยู่บนสวรรค์ ซึ่งนางฟ้าหรือเทวดามีรูปลักษณ์ เหมือน ภาพวาดตามกำแพงโบสถ์ อดิฉันอยากทราบว่า สวรรค์เป็น international หรือเปล่าคะ ศาสนาอื่น จะเห็นสวรรค์เหมือนชาวพุทธหรือเปล่าคะ
   เช่น ศาสนาคริสต์ โดยส่วนมาก มักจะเล่าประสบการณ์ตายแล้วกลับฟื้นคืนชีพว่า ตัวเองผ่านเข้าไปในอุโมง แล้วเจอญาติที่เสียชีวิตก่อนๆนั้นมารอรับ อันนี้เป็นผลมาจากการสั่งสมความเชื่อที่แตกต่างกันหรือเปล่าคะ สวรรค์จะเป็นสถานที่ของผู้มีบุญที่สามารถกำหนดรูปลักษณ์ของที่อยู่และสิ่งแวดล้อม เลยทำให้จิตดวงสุดท้ายของแต่ละศาสนาเห็นภาพต่างกันหรือเปล่าคะ

กราบขอบคุณอาจารย์เป็นอย่างสูง

คำตอบ
เคยตอบแล้ว

128.
กราบเรียนท่านอาจารย์ที่เคารพอย่างสูง
1.ท่านอาจารย์มีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล ช่วงไม่นานมานี้คนไทยนิยมเปลี่ยนชื่อกันมาก แม้แต่บุคคลที่เกิดในตระกูลดี ฐานะดี มีคุณวุฒิ ความรู้สูง ฉลาดเฉลียว มียศตำแหน่งสูง

คำตอบ
   หลวงพ่อบ่นที่หนูเปลี่ยนชื่อ เป็นเพราะหลวงพ่อเห็นความงมงายของหนู ที่เอาสมมติ(ชื่อ) มามีอิทธิพลอยู่เหนือจิตใจ
ชื่อนั้นสำคัญไฉน
   อหิงสา คือความไม่เบียดเบียน การเว้นจากการทำร้าย อหิงสกะ(โจรองคุลีมาล) ยังฆ่าผู้คนได้มากถึง 999 คน
   อโศก คือไม่โศก ไม่เสียใจ พระเจ้าอโศกมหาราช ฆ่าชาวกลิงคะ ไปเป็นจำนวนมาก ยังโศกเศร้า ยังเสียใจในความเหี้ยมโหดของพระองค์เอง สุดท้ายจึงวางศาสตราวุธ แล้วหันมาทำนุบำรุงพระศาสนาให้ขจรขจายได้
   ปฏาจรา แปลว่าผู้ไปโดยไม่มีผ้านุ่งห่ม(เสียสติ บ้า) เมื่อได้บวชเป็นภิกษุณี กลับมามีสติสัมปชัญญะ แล้วบรรลุอรหัตถผลได้
    ดังนั้น ชื่อจึงเป็นเพียงสมมติบัญญัติ ใช้สำหรับสื่อถึงตัวบุคคลโดยเฉพาะ สมมติบัญญัตินี้ไม่มีอิทธิพลเหนือจิตใจ แล้วเหตุไฉนจึงเอาใจของเราเข้าไปเป็นทาสสมมติบัญญัติ ให้คุณค่าของจิตใจตนเองลดต่ำลงด้วยเล่า

2.พรหมในชั้นรูปพรหมจะปฏิบัติให้ถึงความหลุดพ้นได้หรือไม่
เมื่อตายไปหนูอยากเกิดเป็นรูปพรหมเพราะไม่อยากอยู่ในกามภพ
แต่ได้ฟังเรื่องเก่าที่ท่านอาจารย์บรรยายไว้ว่าการไปเกิดเป็นพรหมซวยเลยเพราะต้องใช้ชาตินานมากและยังไม่สิ้นกิเลสต้องลงมาเกิดอีกไม่รู้ว่าจะพ้นทุกข์เมื่อไรเว้นแต่พรหมชั้นสุทธาวาสเท่านั้นที่นิพพานในชาตินั้น หนูสงสัยว่าพรหมประพฤติธรรมให้ถึงความหลุดพ้นไม่ได้หรือคะ หนูคิดว่าโดยทั่วไปพรหมน่าจะมีบุญมากกว่า มีความละเอียดมากกว่า และมีสติปัญญาดีกว่าเทวดาและมนุษย์นะคะ
(ขอพูดถึงเฉพาะผู้ที่ปรารถนาพ้นทุกข์เท่านั้นนะคะ)

ขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์เป็นอย่างสูงค่ะ
จาก สยาวไลย์

คำตอบ
   การเข้าถึงความเป็นรูปพรหม มนุษย์สามารถเข้าถึงได้ 2 เส้นทางคือ เจริญสมถกรรมฐานอย่างเดียว จนจิตบรรลุฌาน1-4 หากจิตทิ้งร่างขณะจิตอยู่ในอารมณ์ฌาน จิตจะไปโอปปาติกะเป็นรูปพรหม ที่ยังมีกิเลสในใจแต่กิเลสถูกข่มทับไว้ด้วยอำนาจของฌาน เมื่อกำลังของฌานเสื่อม ยังต้องกลับมาเวียนตายเวียนเกิดอีกยังเข้านิพพานไม่ได้เพราะกิเลสยังไม่หมดไปจากใจ
   การเข้าถึงรูปพรหมในแนวทางที่ 2 ต้องปฏิบัติจิตตภาวนาทั้งสมถและวิปัสสนากรรมฐาน จนบรรลุความเป็นอริยบุคคลระดับ 3 (อนาคามี) หากจิตทิ้งร่างขณะยังเป็นอนาคามี จิตจะไปโอปปาติกะ เป็นรูปพรหมชั้นสุทธาวาส(อวิหา อตัปปา สุทัสสา สุทัสสีและอกนิษฐา) ระดับใดระดับหนึ่งตามภูมิธรรมภูมิปัญญาแห่งตน รูปพรหมชั้นนี้พัฒนาจิตให้สูงขึ้น แล้วเลื่อนระดับขึ้นถึงอกนิษฐาและหากยังไม่หยุดทำจิตตภาวนา ก็จะสามารถบรรลุอรหัตถผลได้ โดยไม่ต้องเวียนกลับมาเกิดเป็นเทวดาหรือมนุษย์อีกเลย
   ส่วนรูปพรหมตั้งแต่ชั้น1-11 ยังมีสภาพจิตเป็นปุถุชน เปรียบเทียบในด้านภูมิธรรมภูมิปัญญาแล้วยังด้อยกว่าอริยเทวดที่มีอยู่ในชั้นของสวรรค์ และยังด้อยกว่ามนุษย์ผู้เข้าถึงความเป็นอริยบุคคลอีกด้วย

127.
เจริญพร..อาจารย์สนอง วรอุไร

อาตมามีเรื่องอยากถามอาจารย์

1. ก่อนนั่งสมาธิ ควรที่จะอธิษฐานก่อนนั่งสมาธิทุกครั้งไหม ?

คำตอบ
อ่านคำตอบข้อ 91

2. เวลานั่งสมาธิเกิดความฟุ้งซ่านขึ้นมา ควรจะแก้ไขอย่างไร ?

คำตอบ
  ความฟุ้งซ่าน(อุทธัจจะ)เกิดจากการส่งจิตออกนอกตัว ไปสู่อดีต อนาคต ไปรับสิ่งกระทบภายนอกมาปรุงแต่งเป็นอารมณ์ ทำให้จิตใจฟุ้งซ่าน ในสมัยที่ฝึกอยู่กับท่านเจ้าคุณโชดก ก็เคยมีอาการอย่างนี้ และแก้ปัญหา 2 วิธีคือ วิธีแรก หันหน้าเข้าหามุมห้อง เมื่อจิตส่งออกไปกระทบมุมห้องก็กลับเข้าสู่ตัว จิตไม่เที่ยวไปไกล จึงสงบได้
    อีกวิธีหนึ่ง สร้างมโนภาพขึ้นมาว่า มีกล่องเหล็กผนังหนา ขนาดกว้าง ยาวประมาณหนึ่งคืบ กล่องนี้ฝังอยู่ในตัวเอง มีรูเปิดรูเดียว เล็กขนาดเข็มเย็บผ้าลอดได้ เอาจิตเราเข้าไปขังไว้ในกรงเหล็กแล้วคอยจ้องดูที่ปากรู ว่าเมื่อไหร่จิตจะหนีออกไปข้างนอก ปรากฏว่าจิตไม่หนีออกไปนอกตัวอีกเลย เพราะเราคอยจ้องที่ปากรู ทั้งสองวิธีสรุปลงได้ว่า จิตมีสติมากขึ้น จึงไม่หนีออกไปข้างนอก ผลทำให้อารมณ์ฟุ้งซ่านหายไป

3. เวลานั่งสมาธินานจนเหน็บมันกินที่แข้งและขา แล้วก็นั่งไปเรื่อย ๆ จนจิตเข้าสู่ภาวะใดภาวะหนึ่ง ( ไม่ทราบ ) แต่รู้สึกว่าสบาย คล้าย ๆ ว่าตัวลอยอยู่ เบาสบาย แล้วลองเอาจิตคิดว่าจะเลิกทำสมาธิมันก็ไม่อยากจะออก ไม่เหมือนตอนจิตไม่สงบ แต่เวลาจิตเข้าสู่ภาวะนั้นหูก็ยังได้ยินเสียงอยู่ อยากทราบว่าควรจะทำอย่างไร ?

ขอเจริญพรขอบคุณอาจารย์

ธมฺมทินฺโน ภิกฺขุ

คำตอบ
อาการที่บอกนั้นเป็นปีติชนิดหนึ่ง จะเกิดเมื่อจิตตั้งมั่นเป็นสมาธิ อาการเป็นเหน็บชาที่แข้งขาหายไป ความเบาสบายเกิดขึ้นแทนที่ คนส่วนใหญ่มักไปติดที่อารมณ์นี้ เพราะจิตสงบ มีความสุข สมาธิระดับนี้หากนำไปพัฒนา วิปัสสนาญานจะเกิดขึ้นได้ ด้วยการตามดูเวทนา (ความเบาสบาย) ให้เห็นเป็นไปตามกฎไตรลักษณ์ เมื่อความเบาสบายดับไป(อนัตตา) จะเกิดปัญญารู้แจ้งในเวทนาว่า ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ดูตัวอย่างเหน็บที่แข้งขายังหายไปได้ เช่นเดียวกัน ขณะหูได้ยินเสียง ต้องตามดูให้เสียงดับ(อนัตตา) เช่นเดียวกัน แล้วจะเกิดปัญญาเห็นแจ้งในเสียงที่ได้ยินว่าเสียงก็ไม่มีตัวตน จิตปล่อยวางเสียง ทุกชนิดของเสียงในที่สุดดับหมด ถ้ารู้แจ้งเรื่องเสียงอย่างนี้แล้ว เสียงหนวกหู เสียงรบกวน เสียงสรรเสริญ เสียงก่นด่านินทา เป็นต้น ย่อมไม่มีอำนาจเหนือใจเรา จิตเป็นอิสระจากเสียงเพราะเกิดปัญญารู้ทัน(วิปัสสนาญาน)
    นมัสการพระคุณเจ้า ทำแบบคนโง่ เชื่อแล้วทำตามคำแนะนำ เดี๋ยวดีเอง ...สาธุ

 

126.
อาจารย์ครับ
 ผมศรัทธาและเคยปฏิบัติแนวพองยุบมา แต่มีปัญหาว่าไม่สามารถจับอาการพองยุบได้เลยแม้ว่าท้องจะพองยุบ ตามปกติ เสมือนหนึ่งไม่มีความรู้สึกบริเวณท้อง เป็นมาหลายปีแล้วครับ รบกวนอาจารย์ช่วยแนะนำวิธีแก้ด้วยครับ อยากปฏิบัติได้มาก

คำตอบ
นั่นเป็นเครื่องแสดงว่า จิตยังมีสติไม่มากพอ จึงไม่สามารถตามไประลึกรู้ อาการพอง – ยุบของหน้าท้องได้ วิธีแก้ไข ให้หายใจเข้าลึก ๆ แล้วค่อยปล่อยลมหายใจออกตามปรกติ เพื่อทำให้อาการใหญ่ของการพอง – ยุบ ปรากฏให้สติจับได้แล้วปล่อยให้หายใจตามปกติ ลมเข้า- ออกจะละเอียดขึ้น สติตามระลึกรู้อาหารพอง – ยุบ แม้จะละเอียดเพียงใด ก็ตามระลึกรู้ได้หมด

125.
เรียนดร.สนองที่เคารพอย่างยิ่งขอรบกวนถามท่านค่ะ

1.ทำไมทำบาปแล้วกรรมจะตามทันเร็วมากแต่เป็นกรรมเล็กน้อยเช่นฆ่ามดก็จะคันตามตัวเรื่อยๆเป็นเพราะอะไรคะกรรมอย่างอื่นก็เป็นคะ

คำตอบ
คนที่มีบุญ หากทำบาปแล้วผลของบาปจะเกิดขึ้นเร็วกว่าคนไม่มีบุญ ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เราต้องใช้หนี้บาปที่ตามมาให้ผล เจ้าคุณโชดกแนะนำว่า หลังจากฝึกกรรมฐานเสร็จในแต่ละวัน ต้องอุทิศบุญกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรทุกครั้ง

2.พวกผี เปรตสามารถเข้ามาอยู่ในบ้านเราได้หรือไม่คะหนูชอบสวดมนต์นั่งสมาธิเสมอและอุทิศบุญพร้อมแผ่เมตตาเสมอถ้าเขาเข้ามารบกวนเราควรแก้ไขยังงัยคะ

คำตอบ
รื่องนี้เป็นประสบการณ์ที่ยาวไกล ปัจจุบันยังไม่สามารถตามกลับไประลึกถึงได้ จึงตอบไม่ได้ แต่จากหลักฐานที่บันทึกกันไว้ มีแต่ไปพบเปรตในอากาศ เปรตบนพื้นดิน เปรตในไร่นา เปรตในหลุม เปรตในป่า เปรตบนทางสัญจร เปรตมีวิมานอยู่อาศัย ฯลฯ เปรตโดยกำเนิดที่อาศัยอยู่ในบ้าน หรือเข้ามาขอส่วนบุญในบ้านมีหรือไม่ไม่ทราบ แต่ถ้าเป็นมนุษย์ที่ยังมีเศษกรรมของเปรตเหลือตกค้างอยู่ในจิตใจ (มนุสฺสเปโต) มีบ้านเป็นที่อยู่อาศัยได้ เข้ามารบกวนในบ้านได้ ทางที่ดีควรทำทานให้ไปเท่าที่ตัวเองมีความสามารถจะให้ได้ เป็นหนทางหนึ่งที่เขาทำให้เราได้สร้างทานบารมีอย่าเห็นว่าเป็นการรบกวน หรือทำให้เดือดร้อน ให้เท่าที่มีให้แล้วสบายใจเป็นใช้ได้

3.คนดีมีเทวดารักษาทุกคนใช่ไหมคะแล้วเทวดาจะคุ้มครองเราเรื่องอะไรบ้างคะ แล้วเราต้องตอบแทนท่านอย่างไรบ้าง เทวดาท่านมาจากไหน มาได้อย่างไรและจะคุ้มครองตลอดเวลาไหมและจะเปลี่ยนเป็นองค์ใหม่ได้ไหมคะ

คำตอบ
  คุณธรรมของมนุษย์คือการทำความดี คุณธรรมของสวรรค์คือปกป้อง คุ้มครองมนุษย์ผู้ทำความดี เช่นอนาถบิณฑิกเศรษฐีมีเทวดารักษาอยู่ที่ซุ้มประตูเข้าบ้าน พระโพธิสัตว์ (เจ้าชายสิทธัตถะ) มีเทวดาผู้ใหญ่ 4 องค์ (จตุโลกบาล) คอยปกป้องดูแล เป็นเทวดาชั้นจาตุมหาราชิกา ที่ติดอยู่กับภพภูมิของมนุษย์ เทวดานี่หน้าที่เหมือนพี่เลี้ยงเขาช่วยทุกเรื่องที่ดีงามที่มนุษย์ผู้มีความดีประสงค์จะทำ เทวดาก็อยากได้ทำบุญเช่นเดียวกันมนุษย์ อายุขัยของมนุษย์สั้นนิดเดียว เมื่อเทียบกับอายุขัยของเทวดา นั้นเขาคงไม่เปลี่ยนเทวดาองค์ใหม่มาดูแลมนุษย์ผู้มีบุญหรอก

4เราแผ่เมตตาให้คนตายได้ไหมคะหรือได้แต่คนที่ยังไม่ตายเท่านั้น แล้วคำว่าอุทิศบุญกุศลสำหรับคนตายใช่ไหมคะ
ขอคำแนะนำด้วยค่ะ

คำตอบ
   คำว่าเมตตามีความหมายว่าความรักหรือความปรารถนาให้ผู้อื่น มีความสุขถ้าคุณมีเมตตา คุณสามารถแผ่เมตตาให้คนอื่นและสัตว์อื่น ทั้งที่มีชีวิตและตายไปแล้วได้
   ส่วนคำว่าบุญกุศล เป็นความประพฤติชอบทางกาย วาจา ใจ เป็นกุศลธรรม เมื่อคุณได้ทำแล้วและมีบุญกุศลอยู่กับตัวแล้ว สามารถอุทิศบุญกุศลให้ทั้งคนที่มีชีวิตอยู่หรือคนที่ตายไปแล้วได้ แต่มีเงื่อนไขว่าเขาจะได้รับต้องมาอนุโมทนาบุญเอาเอง

5 หนูชอบนั่งสมาธิสวดมนต์เสมอ และแผ่เมตตา อุทิศกุศลให้เหล่าสรรพสัตว์ ทั้งสามทั่วโลกธาตุมานานแล้วจะทำให้พวกกายทิพย์มาคอยรับบุญอยู่ข้างตัวเราหรือเปล่าคะ หรือเขาจะคอยอยู่นอกบ้าน เพราะไม่อยากให้เขามาอยู่ในบ้าน
ควรทำอย่างไรคะ

คำตอบ
  พวกกายทิพย์ เช่น เทวดา พรหม เข้ามาในบ้านได้ ดูตัวอย่างของพระสารีบุตร ก่อนเข้านิพพานอาพาธหนัก มีเทวดาผู้ใหญ่ พรหมผู้ใหญ่ เข้ามาเยี่ยมอาการอาพาธถึงในห้องนอนที่บ้านเกิด เหตุเพราะพระสารีบุตรเป็นพระอรหันต์มีคุณธรรมสูง แต่ถ้าไม่มีคุณธรรม พวกนี้รังเกียจไม่เข้าใกล้ เขาเหมือนมนุษย์ผู้มีร่างกายและจิตใจสกปรก
    ตรงกันข้ามจากประสบการณ์ของผู้ตอบคำถาม ภิกษุที่ถูกคนร้ายยิงตายแล้วโอปปาติระเป็นสัมภเวสี มีกายทิพย์เช่นกัน ยังเข้ามาในโบสถ์แล้วสื่อให้มนุษย์ทราบได้ด้วยเสียงคนนอนกรน และกลิ่นเหม็นสาปสาง วันรุ่งขึ้นได้เดินผ่านบ้านเล็ก (ศาลเจ้าที่) จึงได้บอกสัมภเวสีว่า วันนี้ไม่ต้องเข้าไปในโบสถ์ เพราะมีกลิ่นเหม็นให้รออยู่ข้างนอกนี่แหละ แล้วจะอุทิศบุญกุศลให้ วันรุ่งขึ้นสัมภเวสีที่อ้างถึงไม่ได้แสดงสื่อให้ปรากฏอีกเลย ลองเอาเรื่องนี้ไปประยุกต์ให้กับตัวเองดูนะ


6เพื่อนนั่งวิปัสสนาครั้งแรก เขารู้สึกตัวเขาเบาเหมือนปุยนุ่นและไม่ได้ยินเสียงหรือรับรู้สิ่งภายนอก
คืออะไรคะ

คำตอบ
  คือปีติชนิดหนึ่ง (อุพเพคาปีติ) เป็นผลที่เกิดจากจิตตั้งมั่นเป็นสมาธิ ยังไม่ใช่วิปัสสนาภาวนา

7 ทำดีก็ขึ้นสูง ทำชั่วลงต่ำ
อย่างนี้ถ้าเราทำดีแล้วขึ้นสวรรค์พอเสวยสุขหมดก็ต้องลงมาชดใช้กรรมตามลำดับใช่ไหมคะ อย่างนี้แล้วอดีตที่เคยทำกรรมไว้ก็แก้ไขไม่ได้แล้ว แต่ปัจจุบัน ทำแต่ควมาดี อย่างนี้จะขึ้นสูงหรือลงต่ำ ก็ไม่มีผลสิคะ แล้วเราจะฝึกจิตให้ไปดีก่อนทำไมคะ ในเมื่อก็ต้องได้รับทั้งสองอย่างอยู่แล้ว ลำบากก่อน สบายทีหลังไม่ดีกว่าหรือคะ หนูคิดผิดไหมคะ แนะนำด้วยค่ะ

คำตอบ
  ใช่แล้ว กรรมทุกอย่างจิตเก็บสั่งสมไว้แก้ไขใหม่ได้ ทำกรรมชั่วไว้แล้วคิดจะหนีผลของกรรมชั่ว ต้องทำดังนี้คือ ทุกขณะตื่นเลิกทำกรรมไม่ดีทุกชนิดทำแต่กรรมดีเรื่อย ๆ ไปให้จิตบันทึกแต่กรรมดีให้ยิ่งใหญ่ แล้วต้องอุทิศบุญกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวรบ่อย ๆ อุทิศให้ทุกวันได้ยิ่งดี หากทำได้อย่างนี้ยังพอมีโอกาสหนีวิบากของกรรมไม่ดีได้ ทั้งนี้มีเงื่อนไขว่ากรรมไม่ดีที่ทำมีความรุนแรงในการให้ผลมากแค่ไหน และกรรมดีที่มีอานิสงส์มากน้อยแค่ไหน ซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทของกรรมดี ที่เลือกทำอีกด้วย

8ถ้าเรานั่งสมาธิ แล้วจะมีวิญญาณอื่นสามารถมาเข้าร่างเราได้ไหมคะ ขอคำแนะนำด้วยค่ะ ถ้าเขาชวนคุยในจิตแล้วไม่สนใจเขาจะโกรธเราไหมและจะทำอันตรายเราได้ไหม และแก้ไขอย่างไรคะ

คำตอบ
  ถ้านั่งสมาธิแล้วมีสติกำกับตลอดเวลา พลังงานอื่น (จิตวิญญาณ) ไม่สามารถมาใช้ร่างกายคุณได้ และที่ถามว่าเขาชวนคุยแล้วไม่สนใจ เขาจะโกรธไหม จะทำอันตรายได้ไหม เป็นคำถามที่เกิดจากคนขาดสติถาม คนมีสติเข้าไม่ถามกัน

9เจ้ากรรมนายเวรของเรามาในรูปแบบไหนบ้างเป็นผี วิญญาณ หรือเป็นอะไรได้บ้างคะ แล้วเขาไม่ไปตามบญกรรมของเขาหรือ ทำไมยังมาจองเวรกับเราได้อยู่ ทำไมพญายมไม่มารับจิตเขาไปพิพากษาตามกรรมเขา เพราะเขาตายไปแล้ว อธิบายและแนะนำด้วยค่ะ

คำตอบ
  มาในทุกรูปแบบที่ทำให้คุณไม่สบายใจ เป็นอุปสรรคเป็นปัญหา เป็นทุกข์ กรรมไม่ดีหากยังไม่ให้ผล ยังไม่ต้องรับอกุศลวิบากนั้น

10 พวกสัมภเวสีทำไมต้องตายก่อนอายุขัย แล้วเขาอยู่อย่างไรในโลกเรานี้ เขาสามารถไปไหนได้ตามต้องการใช่ไหม และจะมารบกวนคนหรือเข้าสิงได้ไหมคะ

กราบขอบพระคุณอย่างยิ่งที่ท่านเมตตาถ้าคำถามใดไม่สมควรถามหนูขอกราบขออภัยท่านด้วยค่ะ
......ผู้ใฝ่ธรรมะ

คำตอบ
  ตามชนิดของกรรมที่ทำไว้ก่อน เช่นทำกรรมตัดรอนมาก่อนเขาอยู่อย่างสัมภเวสี ตายตรงไหนมักจะอยู่ตรงนั้น บริเวณนั้น เว้นไว้แต่ว่าจะมีผู้นำเขาไปอยู่ที่อื่นเช่นพาไปอยู่ในวัด พาไปอยู่ข้างนอกโบสถ์ แต่เขาต้องยินยอม และทำตาม เขาอาจมาขอส่วนบุญกับผู้มีบุญ หรือกลั่นแกล้งคนที่ขาดสติให้พบความวิบัติได้

124.
กราบเรียนท่านดร.สนองที่เคารพอย่างยิ่ง

1.ตอนหลับอยู่เหมือนครึ่งหลับครึ่งตื่นเหมือนมีคนมาขย่มเตียงเหมือนแผ่นดินไหวมาปลุกแต่ไม่ตื่นก็มาดึงแขนดึงขา คืออะไรคะ เมื่อก่อนไม่เคยเป็น แต่พอมาภาวนาอย่างจริงจังจะมีอะไรแปลกๆบ่อยมาก เกิดจากอะไรคะมีวิธีแก้ไหม แต่หนูไม่กลัวค่ะ

คำตอบ
   เกิดจากรูปนามที่ละเอียดมาขอส่วนบุญ วิธีแก้ไขคือทำตามที่ท่านเจ้าคุณโชดกแนะนำ คือทุกครั้งทำจิตภาวนา ต้องอุทิศบุญกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวร ให้กับญาติที่ตายไปแล้ว ให้กับสรรพสัตว์ที่เป็นเพื่อนร่วมเกิด แก่ เจ็บ ตายในวัฏฏสงสาร ฯลฯ แล้วอาการเหล่านั้นจะหายไป

2.ทำไมบางวันจิตก็สงบบางวันไม่สงบเลยช่วงหลังนี้ไม่เคยสงบเลยมีกิเลสเยอะมากแนะนำด้วยค่ะ

คำตอบ
    เป็นเรื่องปกติของคนปฏิบัติจิตตภาวนา ผู้ตอบคำถามเคยผ่านสภาวะแบบนี้มาก่อน วิธีแก้คือเร่งความเพียรให้มากขึ้น ปฏิบัติให้มีสติเข้มมากพอ แล้วอาการเหล่านั้นจะหมดไป

3.ได้ยินเสียงสวดมนต์ตอนดึกไพเราะมากแต่นิดเดียว   ทั้งที่ไม่มีใครเปิดเทปหรือมีงานคืออะไรคะ

คำตอบ
    นั่นเป็นผลที่เกิดจากจิตนิ่งเป็นสมาธิ ความถี่คลื่นจิตของคุณจูนไปตรงกับความถี่คลื่นในอีกมิติหนึ่ง

4 เวลาตั้งจิตอธิษฐานหรือคุยกับพระบางรูปรู้สึกขนลุกขนพองมากเพราะอะไรคะ

คำตอบ
    เพราะขาดสติ อาการขนลุกขนพองจึงเกิดขึ้น ถ้าสติเข้มข้นอาการเหล่านั้นจะไม่เกิด

5 ถ้าหนูจะโมทนาบุญล่วงหน้ากับผู้ที่หนูรู้ว่าเขาชอบทำบุญมากๆรวมถึงท่านดร.สนองและพระอรหันต์ทั้งหมดในโลกนี้แต่ท่านไม่ได้บอกหนูโดยตรง หนูขอโมทนาได้ไหม จะได้บุญไหมคะ ถ้าหนูโมทนาบุญกับพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ที่ท่านได้สั่งสมบุญบารมี หนูจะร่วมโมทนาบุญด้วยได้ไหม ต้องใช้คำพูดเช่นไรคะ

คำตอบ
    อนุโมทนาบุญได้ เพราะเป็นบุญกิริยาวัตถุ 10 ทำแล้วผู้อนุโมทนาก็ได้บุญ วิธีการคือ ระลึกถึงคุณความดีของท่าน ระลึกถึงการทำดีของท่าน แล้วกล่าวคำว่า สาธุ

6 คำว่าโมทนาบุญกับอนุโมทนาบุญต่างกันอย่างไรคะ

คำตอบ
    ต่างกันในการเขียน แต่มีความหมายเหมือนกันคือยินดี

7 เวลาสวดมนต์หรือนั่งภาวนาจะได้ยินเสียงชายมาพูดไม่ดีในสมองว่างมงาย แต่มีเสียงหญิงมาพูดดีว่าเป็นเทวดาที่รักษาตัวเรา คืออะไรคะ ขอคำแนะนำด้วยค่ะ

คำตอบ
    ศัตรู (มาร) คือตัวการที่คอยขัดขวางไม่ให้เราทำความดี ส่วนคนที่สนับสนุนหรือเห็นดีด้วยเมื่อเราทำความดีคือมิตร เวลาสวดมนต์หรือนั่งภาวนาแล้วได้ยินเสียง แสดงว่าสติเคลื่อนออกไป จากการสวดมนต์หรือนั่งภาวนา ควรต้องกำหนดการได้ยินเสียงว่า ได้ยินหนอ ๆ ๆ ๆเรื่องไปจนกว่าการได้ยินเสียงดับไป แล้วดึงจิตกลับมาสู่การสวดมนต์หรือองค์ภาวนาเดิม
   เรื่องที่ถามว่าเป็นเทวดาอะไรนั่นน่ะ ไม่ต้องไปอยากรู้ รู้มากก็ฟุ้งมาก (อุทธัจจะ) เพราะเท่าที่ถามมาในข้ออื่น ๆ ก็ฟุ้งมากอยู่แล้ว ความฟุ้งซ่านเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาจิตให้เกิดปัญญาเห็นแจ้ง


8 พระ2องค์ หมอดู1คน บอกว่ามีเด็กติดตามตัวหนูตลอดเวลา เป็นกุมาร เป็นเด็กหญิงบ้าง แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าจริงไหมคะ หนูชอบแผ่เมตตาและอุทิศบุญกุศลทุกครั้งหลังสวดมนต์ ภาวนา เขาถึงมาตามติดหนูใช่ไหมคะและต้องทำอะไรให้เขาบ้างคะ

คำตอบ
    คำพูดที่ออกจากปากคน พระอริยะเขาไม่เชื่อ พระอริยะเชื่อเหตุผล คุณปฏิบัติจิตตภาวนา เพื่อให้เกิดปัญญาเห็นแจ้ง เพื่อเข้าสู่ความเป็นอริยบุคคลในวันข้างหน้า ฉะนั้นควรดับความฟุ้งซ่านต่าง ๆ ที่เกิดกับใจของคุณให้ได้ แล้วการปฏิบัติจิตตภาวนาจึงจะสัมฤทธิ์ผล

9 เราสามารถละกิเลสโดยการตามดูจิตของเราเองตลอดเวลาโดยไม่ต้องนั่งสมาธิเลยได้ไหมคะ ต้องทำเช่นไรคะ และจะทำให้ถึงนิพพานได้ไหม ถ้าไม่ทำสมถะและวิปัสนากรรมฐานด้วยการนั่งภาวนาอย่างเดียว ข้อนี้มีคนอื่นฝากถามมาค่ะ

คำตอบ
สามารถทำได้แต่ต้องสงบ แล้วดูจิตที่ถูกอายตนะภายนอก (รูป รส กลิ่น เสียง ฯลฯ) เข้ากระทบ แล้วเห็นสิ่งที่เข้ากระทบดับไป (อนัตตา) สิ่งกระทบไม่มีตัวตน เปรียบได้ดังที่ปฏาจาราเห็นน้ำที่ใช้ราดเท้าทั้ง 3 ครั้งหายลับเขาไปในแผ่นดินไม่มีน้ำเหลือให้เห็น ทุกผัสสะเห็นได้อย่างนี้ จะทำให้จิตปล่อยวาง จิตเป็นอิสระต่อสรรพสิ่ง โอกาสเข้าถึงพระนิพพานมีความเป็นไปได้

10 หนูติดสมถะกรรมฐานมากกว่าวิปัสนา เพราะหนูจะชอบมากกว่า แต่วิปัสนาจะฟุ้งซ่านมาก
ขอวิธีแก้ไขค่ะ

กราบขอบพระคุณและขอโมทนาบุญกับท่านดร.สนองทุกครั้งที่ท่านสร้างบุญค่ะ
สาธุ
จาก ผู้ปรารถนานิพพาน

คำตอบ
  ปฏิบัติสมถกรรมฐานอย่างเดียว ไม่สามารถทำให้เกิดปัญญาเห็นแจ้งได้ เพราะอวิชชา (ความไม่รู้จริง) ยังไม่ถูกกำจัดให้หมดไป วิธีแก้ไขคือ ขณะที่จิตสงบเป็นสมาธิ ให้ใช้จิตตามดูอาการสงบของจิต จนกว่าจะเห็นความสงบหายไป (อนัตตา) และเช่นเดียวกัน หากนิมิตใดหรืออารมณ์อื่นใดปรากฏขึ้นกับจิต ต้องใช้จิตตามดูจนกว่าสิ่งเหล่านั้นหายไป (อนัตตา) แล้ววิปัสสนาญาณจะเกิดขึ้นแทนที่

123.
กราบเรียนถามอาจารย์ค่ะ

ขณะปฏิบัติ รู้ลมหายใจเข้า-ออกเรื่อยๆ จนมีสมาธินิ่ง แต่ไม่ดิ่ง รู้สภาวะในสิ่งที่กระทบภายใน +นอกตลอด จนกระแสความคิดที่เกิดขึ้น และดับ จนไม่มีคาวมคิดอีก เหลือแต่ความรู้สึกตัวตลอด เช่น ขนลุก จิตใจอิ่มเอิบ
แต่มีสภาวะที่สังเกตุคือ ความรู้สึกตัวที่มีตลอดเวลานั้น
(รู้สึกขนลุก ใจอิ่มเอิบแผ่ซ่าน จิตที่นิ่งๆ รู้กระแสในการกระทบ ของสภาวะอายตนะต่างๆที่กระทบ ที่เกิด ดับ) มันไม่ยึดติดกับร่างกายของเรามันลอยๆ ( ไม่ทราบว่าจะอธิบายยังไงค่ะ )
 
รู้แต่คิดแล้วรู้ คิดแล้วรู้ แล้วดับ แบบนี้ บางครั้งก็สังเกตุลองพิจาราณาสลับกับรู้กลับมาที่รูปทรงสัณฐานของเรา กับความคิดแล้วรู้ของเรา มันคิดแล้วรู้ แยกกับรูปทรงสันฐานของกายจนบางชั่วขณะจิตรู้ว่าความป็นรูปทรงสันฐานไม่มีปรากฏ มีแต่รู้อย่างเดี่ยวค่ะ (ต้องกราบขออโหสิท่านอาจารย์ค่ะ อาจจะวกไปวนมา )

ขอการบเรียนถามค่ะ
1.) ลักษณะนี้เรียกว่า เป็นการรู้รูป นาม ที่ปรากฏตามสภาวะจริงใช่หรือไม่ค่ะ และต้องปฏิบัติอย่างไรต่อ
    เพื่อให้มีความก้าวหน้าในการเจริญสมาธิปฏิบัติเพิ่มมากขึ้น        

คำตอบ
    ตอบว่าใช่ สิ่งที่ต้องปฏิบัติต่อไปคือ ต้องหาวิธีดับอาการขนลุก ใจเอิบอิ่มแผ่ซ่าน ฯลฯ ให้หมดไปด้วยการกำหนดว่า รู้หนอ ๆ ๆ เรื่อยไปจนกระทั่งอาการดังกล่าวไม่เกิดขึ้นอีก แล้วจึงดึงจิตกลับมาสู่องค์ภาวนาเดิม

2.) เมื่อก่อนตอนนั่งสมาธิพอถึงระดับหนึ่ งค่ะจะมีสภาวะจิตนิ่งๆ วางเฉย รู้สึกเฉยๆ เหมือนไม่มีอะไร นิ่งๆ เฉยๆ มีแต่รู้ว่านิ่งๆเฉยอย่างเดียว เมื่อวันที่ 28 สค.05 ได้ไปฟังเทศน์ที่ธรรมศาสตร์ค่ะ
ได้เขียนคำถามเรียนถามท่านพระครูเกษมธรรมทัต ท่านได้เมตตาตอบ และได้นำมาปฏิบัติ พอรู้สึกจิตนิ่งๆ เฉยๆ
หนูก็จะปฏิบัติวางจิตเป็นกลางๆ พิจาราณาสภาวะต่างๆ รู้สภาวะต่างๆ ได้มากขึ้น จนสังเกตุว่ามีสภาวะ

จิตรู้ว่าความป็นรูปทรงสันฐานของตนไม่มีปรากฏ มีแต่รู้ที่จิตอย่างเดี่ยวค่ะ

คำตอบ
   ผู้ถามได้เรียนถามพระครูเกษมธรรมทัตแล้ว พระครูฯได้ตอบแล้วและได้เล่าเรื่องต่าง ๆ มาให้ฟัง (ฟุ้ง) มิได้ถามอะไรอีกจึงไม่มีคำตอบ


3.) เมื่อมีสภาวะจิตนิ่งๆคิดก็รู้ หนูก็อุทิศบุญขณะที่จิตนิ่งๆ มีสมาธิ ให้แก่ เทวดา พรหม มาร ฯลฯ ตลอดจนสรรพสัตว์ ทั้งหลายในสังสารวัฏรู้สึกกระแสพลังปิติที่แผ่กระจายออกไปจากเรา จนรู้สึกร่างกายเราเบาสบาย
สักพักรู้สึกมีกระแสเย็นๆมากระทบ ขนลุก มีปิติหนูก็อุทิศบุญกลับไปอีก ซึ่งตลอดเวลาในการอุทิศบุญหนูก้รู้กระแสความคิด (คำอุทิศบุญ) ตลอดค่ะ

เพราะหนูเคยฟังเทปอาจารย์ค่ะ ว่าเวลาเรามีสมาธิ จิตนิ่งๆ จิตจะมีพลัง หนูก็เลยอุทิศบุญจากการ ปฏิบัติภาวนาค่ะขณะมีสมาธิ และพอออกจากสมาธิหนูก็อุทิศบุญอีกค่ะ

คำตอบ
เป็นเพียงเรื่องบอกเล่ามิได้ถามอะไร


4.) ลักษณะที่หนูได้กราบเรียนถามอาจารย์ข้างต้นนั้น เป็นทั้ง สมถะ+วิปัสนา หรือเปล่าค่ะ เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติที่ถูกต้อง ต่อไปค่ะ .

ขออนุโมทนาในความเมตตาที่ท่านอาจารย์ มีให้แก่หนูตลอดมาค่ะ ขออาราธนาพระบารมีแห่งพระพุทธ พระธรรม พระอริสงฆ์ ได้ดลบันดาล บุญที่หนูได้ปฏิบัติภาวนา แม้จะชั่วหนึ่งขณะจิต ตลอดการสะสมความดีตั้งแต่อตีตชาติ จนถึงปัจจุบัน ณ.ขณะจิตนี้
ขอกระแสบุญนี้ส่งถึงอาจารย์ให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและบรรลุผลสำเร็จในสิ่งที่ท่านอาจารย์ ดร.สนอง วรอุไร ปราถนาค่ะ.
.

ขอกราบอนุโมทนาค่ะ
ศรุตยา.

คำตอบ
    ที่เล่าให้ฟังในข้อ 3 นั้นเป็นเพียงสมถกรรมฐาน ถ้าจะให้เป็นวิปัสสนากรรมฐาน ต้องตามดูอาการขนลุกดังไป (อนัตตา) ตามกฎไตรลักษณ์ เช่นเดียวกัน ต้องใช้จิตตามดูกระแสความคิดดับไป (อนัตตา) ตามกฎไตรลักษณ์แล้ววิปัสสนาญาณจะเกิดขึ้น ข้อสังเกตจิตระลึกทันรู้ทันปล่อยวาง จิตเป็นอิสระจิตปลอดอารมณ์ (สงบ)

122.
กราบเรียน อ.ดร. สนอง วรอุไร

หนูมีเรื่องจะเรียนถามค่ะ หนูอยากจะช่วยเหลือคนคนนึงให้เค้าสอบได้ เพราะเค้าพยายามมานานเป็นปีแล้ว แต่ยังทำเท่าไรก็ทำไม่ได้สักที และเค้าก็จะป่วยทุกครั้งก่อนมีการสอบ หนูสงสารเค้ามาก และหนูก็อยู่ไกลจากเค้ามาก หนูมีความปรารถนาดี อยากให้เค้าสอบได้ค่ะ หนูแผ่เมตตาให้เค้า หลังจากสวดมนต์เสร็จ และตั้งใจจะไปทำวิปัสสนากรรมฐานที่วัดร่ำเปิง เมื่อหนูได้กลับไปเมืองไทยค่ะ บุญกุศลเหล่านี้ ที่หนูตั้งใจทำให้เค้า จะช่วยให้เค้าได้มีชีวิตที่ดีขึ้นได้ไหมคะ หรือว่า จะมึวิธีใดที่หนูสามารถช่วยเหลือเค้าได้บ้างคะ รบกวนอาจารย์ช่วยชี้ทางให้ด้วยนะคะ

ขอบพระคุณมากค่ะ

คำตอบ
    วิธีช่วยให้คนอื่นสอบได้ โดยถูกต้องชอบธรรมและตรงที่สุด คือต้องให้ผู้สอบช่วยตัวเอง ด้วยการฝึกจิตให้มีสติ มีผลให้จิตตั้งมั่นเป็นสมาธิ ผู้มีจิตเป็นสมาธิช่องความถี่ของคลื่นสมองมีการเปลี่ยนแปลง จาก 14-22 cycles/second ไปเป็นช่องความถี่ 7-14 cycles/second ซึ่งเป็นช่องความถี่ที่มีความสามารถ เก็บบันทึกข้อมูลได้มากและยาวนาน ปรัชญาจีนกล่าวว่า “ แก่นแท้ของความรู้จะเกิดขึ้นในจิตที่ตั้งมั่นเป็นสมาธิ ”
    ถ้าคุณอยากช่วยเขาให้สอบได้ คุณต้องหาวิธีพูดให้เขาเชื่อและทำตามที่บอกนี้

121.
ขอเรียนถามดร.สนองดังนี้ครับ

1. “ ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นตถาคต ” หมายความว่าอะไร อยากให้ช่วยอธิบาย เพราะดูเหมือนรู้ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าถูกต้องไหม

คำตอบ
    ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นตถาคต หมายความว่า ผู้ใดเห็นสรรพสิ่งเกิดขึ้นแล้วดับไปในที่สุด คือไม่มีตัวตน จิตไม่ยึด เอาสรรพสิ่งมามีอำนาจเหนือใจของตนจิตปล่อยวางเป็นอิสระต่อสรรพสิ่ง ผู้เห็นตามนี้และปฏิบัติได้ตรงตามนี้เรียกว่าผู้นั้นเห็นธรรม พระพุทธเจ้าเห็นตรงตามนี้และปฏิบัติได้ตรงตามนี้ ผู้เห็นธรรมจึงเห็นพระพุทธเจ้า

2. ผู้ปฏิบัติธรรมมีโอกาสได้เห็นหน้าตาของพระพุทธเจ้าที่เป็นกายเนื้อหรือไม่ ที่สงสัยเพราะพระพุทธรูปเช่น พระประธานตามวัดต่างๆหน้าตาทำไมไม่เหมือนกันเลย

คำตอบ
    ผู้ปฏิบัติธรรมมิได้หมายความว่า เป็นผู้เข้าถึงธรรม ผู้เข้าไม่ถึงธรรมไม่มีโอกาสเห็นพระพุทธะ ผู้เข้าถึงธรรม (เข้าถึงกระแสพระนิพพาน) เคยบอกว่าได้เห็นพระพุทธเจ้าพร้อมอัครสาวกในรูปนิมิต มิได้เป็นกายเนื้อกายหนังอย่างมนุษย์ อริยบุคคลไม่เชื่อคำพูดที่ออกจากปากมนุษย์ แต่เชื่อเหตุและผล ฉะนั้นคำตอบนี้พึงอย่าปลงใจเชื่อ
    พระประธานตามวัดต่าง ๆ มีหน้าและตาไม่เหมือนกัน เพราะใจของช่างผู้สร้างองค์พระมีศีลและมีธรรมแตกต่างกัน

3. ผู้ที่ยังไม่ถึงอายุขัยถูกรถยนต์ชนตาย วิญญาณจะยังคงอยู่ที่จุดที่รถยนต์ชนหรือไม่ หรือพเนจรไปเรื่อยๆ และสามรถทำร้ายคนที่ผ่านไปมาได้หรือไม่ เราจะแผ่เมตตาให้ได้หรือไม่ เมื่อผ่านจุดที่เคยมีคนตาย

คำตอบ
    คนที่ตายก่อนอายุขัย ตายแล้วโอปปาติกะเป็นสัมภเวสี รูปนามที่เป็นทิพย์จะยังคงอยู่ที่จุดถูกรถยนต์ชนตาย หรือมีคนนำไปอยู่ในวัดก็ได้ สัมภเวสีบางตนชอบแกล้งคนที่ยังไม่ตาย ให้วิบัติหรือตายได้ ถ้าคุณมีเมตตาแผ่เมตตาให้เขาย่อมทำได้ถ้าคุณมีบุญกุศลคุณอุทิศบุญกุศลให้เขาย่อมทำได้

4. ถ้าก่อนตาย ผู้ตายตั้งใจว่าไม่ขอเกิดอีก เป็นไปได้ไหม ว่าจะไม่เกิดอีกคือ นิพพาน

ขอแสดงความนับถืออย่างสูง

เศวตศรีถวัลย์

คำตอบ
    ก่อนตายจิตยังตกเป็นทาสของกิเลส (โลภ โกรธ หลง ลบหลู่ ริษยา ตระหนี่ ฯลฯ) จิตยังมีอวิชชา (ความไม่รู้จริง) อยู่อีก ตายแล้วจะไม่ขอเกิดอีก ขอได้แต่เป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าอธิษฐานไม่เกิดอีกแล้วปฏิบัติจนอวิชชาหมดไปอย่างนี้เป็นได้

 

120.
เรียนอาจารย์ ดร.สนอง

1.การที่เราอยากมีบุตรไว้สืบสกุล แต่ไม่่มี ถือว่าเป็น กุศลกรรมที่ทำมา หรือ
อกุศลกรรมที่ทำมา ครับ

คำตอบ
   การที่อยากมีบุตรไว้สืบสกุล แต่ไม่มี ถือว่าเป็นกุศลกรรมที่ทำมาก็ได้ เช่นนางวิสาขามหาอุบาสิกาในครั้งพุทธกาล ไม่มีใครกล้ามาเกิดเป็นลูกเพราะ นางวิสาขามีคุณธรรมสูง (เป็นโสดาบันบุคคล) นางวิสาขาไปกราบทูลพระพุทธเจ้าว่าอยากมีบุตร พระพุทธเจ้าขึ้นไปดาวดึงส์ประกาศให้เทวดามาเกิดเป็นลูกของนางวิสาขาได้ มีผู้สมัคร 400 องค์ แต่ด้วยข้อจำกัดของระบบสรีระของมนุษย์ เทวดาจุติมาปฏิสนธิเป็นมนุษย์ในครรภ์ของนางวิสาขาได้เพียง 20 องค์ที่เหลือเกิดเป็น หลาน เหลน และบริวารจนครบจำนวนสมัคร
   อีกส่วนหนึ่งถือว่าเป็นอกุศลกรรม ที่เกิดจากการผิดศีลข้อ 3 เป็นมูลเหตุการทำหมันสัตว์ คุมกำเนิดสัตว์ ความเครียดของจิตใจ ฯลฯ เหล่านี้เป็นเหตุนำมาซึ่งการไม่มีลูกได้


2.การมีอาชีพปล่อยเงินกู้ เป็นการสร้างอกุศลกรรม
หรือเปล่าครับ ผมคิดว่าหากเราให้เขากู้ โดยไม่ได้คิดดอกเบี้ย จนแพงเกินไป
เป็นการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้กู้ จะถือเป็นอกุศลกรรมด้วยหรือเปล่าครับ

คำตอบ
   อาชีพปล่อยเงินกู้ ถ้าไม่คิดดอกเบี้ย ถือว่าเป็นการช่วยเหลือผู้อื่นให้บรรเทาความเดือดร้อน เป็นกุศลกรรมทำแล้วได้บุญ แต่ถ้าคิดดอกเบี้ยจะถูกหรือแพงก็ตามถือว่าเป็นการกระทำที่เบียดเบียน เป็นบาปเป็นอกุศลกรรม

3. อาจารย์มีความคิดเห็นอย่างไรกับศาสตร์ฮวงจุ้ยครับ
บางกรณีประสบปัญหาด้านการค้า หลังจากแก้ไขฮวงจุ้ย กลับขายดีขึ้น
หรือบางกรณีที่ผู้อยู่อาศัยในบ้านประสบเคราะห์กรรมตายไปที่ละคน
เกี่ยวเนื่องกับฮวงจุ้ยในบ้านหรือเปล่าครับ

ขอขอบพระคุณล่วงหน้าอย่างสูงในความเมตตาครับ

ขออนุโมทนาในธรรมทานของอาจารย์ด้วยครับ

ธนิต 29/8/05.

คำตอบ
   ศาสตร์เกี่ยวกับฮวงจุ้ยมีจริง เป็นความรู้ (วิชา) ที่ยังข้องเกี่ยวอยู่กับโลกเป็นเรื่องความสมดุลลงตัวของการไหลเวียนของกระแสธรรมชาติ หากเราไปทำสิ่งที่ขัดต่อการไหลเวียนของกระแสดังกล่าว ทำให้ผู้กระทำโดยไม่รู้มีอุปสรรคและปัญหาได้ เช่นไปซื้อบ้านอยู่ในพื้นที่ลุ่ม โอกาสถูกน้ำท่วมมีได้ การปักกลดของพระธุดงค์ ขวางทางโคจรของสัตว์ที่มีกายหยาบหรือมีกายทิพย์ ทำให้เป็นอุปสรรคปัญหาต่อการหลับนอนได้ ฯลฯ
  การที่ผู้อยู่อาศัยในบ้านตายไปทีละคน (ตายหลายคน) ถ้าตายก่อนอายุขัยอาจเป็นผลมาจากฮ้วงจุ้ยได้ ถ้าตายทีละคนตามอายุขัย ไม่เกี่ยวกับฮวงจุ้ย

119.
กราบเรียนท่านอาจารย์ดร.สนอง ดิฉันขอกราบเรียนถามนะคะ

1. การที่บางคนบูชาสิ่งที่คิดว่าจะช่วยเสริมบารมี หรือแก้ไขในจุดที่บกพร่อง โดยการนำมาตั้ง วาง ติดตัวนั้น จริง ๆ แล้ว สามารถช่วยได้มั้ยคะ (เช่น สิงโต มังกร สัตว์ประจำราศี ต่าง ๆ)

คำตอบ
พระพุทธเจ้าสอนว่า อย่าศรัทธาโดยใช้อารมณ์ แต่ให้ศรัทธาโดยใช้เหตุผล เป็นเครื่องรองรับ จะเป็นศรัทธาที่ยั่งยืน ถ้าต้องการเสริมบารมีให้กับตัวเอง ต้องปฏิบัติธรรม 10 อย่างให้มีอยู่ในใจตัวเอง (ทาน ศีล เนกขัมมะ ปัญญา วิริยะ ขันติ สัจจะ อธิษฐาน เมตตา อุเบกขา) และถ้าต้องการแก้ไขสิ่งบกพร่องของชีวิต (ดวงชะตา) ให้ดีสามารถทำได้ด้วยการเจริญสติให้มาก แล้วใช้สติควบคุมการคิดให้คิดแต่สิ่งดี ควบคุมการพูด ให้พูดแต่สัมมาวาจา (ไม่เท็จ ไม่หยาบ ไม่เสียดแทง ไม่เพ้อเจ้อ) ควบคุมการกระทำให้ดี ให้ทำแต่สิ่งดี (ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์และไม่เบียดเบียน) ทุกขณะตื่น ทำได้อย่างนี้ ดวงดีแน่นอน

2. ศาลต่าง ๆ ที่มีคนสร้างอุทิศให้กับ สัตว์ ที่มีบุญคุณ หรือบางครั้งถือว่าเป็นเจ้าที่เจ้าทาง แล้วก็มีคนไปกราบไหว้ เหมาะสมมั้ยคะ เพราะเราน่าจะอยู่ในภพที่สูงกว่า และอาหาร สิ่งของที่คนนำไปถวาย จะได้รับ ได้ใช้หรือไม่ และเจ้าที่นั้น จะให้คุณ โทษ กับผู้ที่เคารพและไม่เคารพได้มั้ยคะ และจะมีผลต่อไปอย่างไร (ภพหน้า)

คำตอบ
สัตว์บางตัว มีคุณธรรมสูงกว่ามนุษย์ เช่นพระโพธิสัตว์ ที่ไปเกิดเป็นสัตว์ดรัจฉาน เพื่อบำเพ็ญบารมี ตายไปแล้วสร้างศาล สร้างสถูปให้รูปนามที่เป็นทิพย์มาสิงสถิตย์ มนุษย์ที่ไปกราบไหว้นั้น เขาไหว้คุณธรรมที่มีอยู่ในใจของสัตว์ อย่างนี้ทำแล้วดี ทำแล้วเป็นมงคล (ปูชาจะปูชณียานังฯ)

     การบวงสรวงการเซ่นไหว้ เป็นพิธีกรรมที่แสดงออกให้เห็นถึงการให้ทาน แก่ผู้มีรูปนามเป็นทิพย์ เป็นการแสดงออกถึงการระลึกถึงคุณความดี และตอบแทนคุณความดี (กตัญญูกตเวที) วิธีหนึ่ง มีแต่คุณไม่มีโทษอะไร

3. ในวันพระ ถ้าทำบุญจะได้บุญมากกว่าวันธรรมดา ใช่มั้ยคะ และถ้าทำบุญให้บรรพบุรุษ ก็จะมารับได้โดยตรง หรือไม่คะ และวันพระไทย / วันพระจีน ถือเป็นวันพระที่เหมือนกันหรือต่างกันอย่างไร

คำตอบ
ทำบุญจะได้บุญมากหรือน้อยอยู่ที่กำลังศรัทธาของใจ ไม่ขึ้นกับวันเวลาหรือฤกษ์ยาม วันพระไทยกับวันพระจีน ต่างกันที่สมมุติไม่ตรงกัน

ทำบุญให้บรรพบุรุษ ถ้าเขามาอนุโมทนาเขาก็ได้รับ ถ้าสื่อไปไม่ถึงเขาไม่รู้ว่าเราส่งบุญไปให้ เขาไม่มาอนุโทนาเขาก็ไม่ได้รับ

4. การเผากระดาษ ซึ่งสมมตว่าเป็น เงิน ทอง เครื่องใช้ ดิฉันก็ไม่แน่ใจว่าจะได้รับจริงมั้ย แต่คุณแม่ก็ว่าเป็นประเพณี ต้องทำ และบรรพบุรุษ จะได้มีของใช้ และส่งคืนกลับมาให้เรา ซึ่งเป็นความเชื่อ ตรงนี้ อาจารย์คิดว่าบรรพบุรุษจะได้รับสิ่งของเหล่านี้มั้ยคะ

เพราะดิฉันนับถือแต่พระรัตนตรัย แต่คุณแม่บอกว่าต้องนับถือทั้งหมด 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน คุณแม่ว่าคิดว่ากว่าเราจะขึ้นสวรรค์ ต้องผ่านหลายด่านค่ะ

รบกวนอาจารย์ด้วยค่ะ ขอขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ

คำตอบ
ในศาสนาพุทธ พระพุทธเจ้าไม่เคยบอกเลยว่า ผู้ที่ตายไปแล้ว จะได้รับสิ่งที่ลูกหลานเอาไปให้ แต่บอกว่า ทรัพย์ภายใน (บุญ) เท่านั้นที่จะนำติดตัวไปได้ บุญเท่านั้นที่ส่งถึงกัน ได้ (อุทิศบุญกุศลให้ผู้ล่วงลับ)

ในครั้งพุทธกาล พระเจ้าพิมพิสาร ถวายอาหาร ถวายผ้านุ่งห่ม ถวายวัดเวฬุวัน แต่พระพุทธเจ้าและสาวก หลังอุทิศบุญกุศลส่งไปให้ญาติที่เป็นเปรตมารอรับส่วนบุญได้

118.
กราบเรียน ท่านอาจาร์ยสนอง วรอุไร ที่เคารพอย่างสูง

    ลูกมีปัญหาที่จะขอเรียนถามท่านอาจารย์ค่ะ ลูกจะมีปัญหาในการคบหาเพื่อนต่างเพศเสมอมา ต้องการเรียนถามวิธีปฏิบัติที่จะให้พ้นวิบากกรรมนี้ค่ะ และได้พบผู้ที่จะมาค้ำชูอุปถัมภ์ให้ลูกมีความเจริญก้าวหน้า ทั้งในทางโลกและทางธรรมยิ่ง ๆ ขี้นไป

ขอกราบพระคุณท่านอาจาร์ยค่ะ

คำตอบ
เพื่อนมีทั้งดีและไม่ดีเป็นของธรรมดาโลก เพื่อนดีเรียกว่า กัลยาณมิตร ซึ่งมีลักษณะเด่น 2 อย่างคือ เวลาเราทำไม่ดี เพื่อนประเภทนี้จะขัดขวาง ท้วงติงไม่ให้ทำความชั่ว ในขณะเดียวกันเขาจะชักชวนให้เราทำดี เพื่อนไม่ดีเรียกว่า บาปมิตร มีลักษณะตรงข้ามกับกัลยาณมิตร ควรคบทั้งสองประเภท แต่จะคบอย่างใกล้ชิด (เพื่อนซี้) โดยเฉพาะเพื่อนต่างเพศ คบแล้วสบายใจ ไม่ทำให้เราเสียหาย ต้องคบกัลยาณมิตร เมื่อได้กัลยาณมิตรมาเป็นเพื่อนแล้วต้องปรับปรุงตนเองให้เป็นคนสะอาด (มีศีล) ให้เป็นคนดี (มีคุณธรรม) คนดีเป็นคนมีอารมณ์เย็น มีความอ่อนน้อม ไม่เห็นแก่ตัว ไม่เอาแต่ใจตัวเอง มีความกตัญญูกตเวที มีการเสียสละ มีความขยัน มีความอดทนอดกลั้น มีความรับผิดชอบ ฯลฯ
      ถ้าปรับปรุงตัวเองให้ดีได้อย่างนี้แล้ว ปัญหาเรื่องการคบเพื่อนจะหมดไป
 

117.
ขอกราบเรียน ถาม ท่านอาจารย์สนองดังนี้คะ

1. ขณะที่ขับรถอยู่ เคยเห็น สุนัข แมว ถูกรถทับ อยู่ข้างทาง บ้างก็ต้องมีอุบัติเหตุเสียชีวีต เลย คิดว่าอยาก จะแผ่เมตตาให้กับสรรพสัตว์ และ วิญญาณ สัพพะเวสี ซึ่งน่าจะมีอยู่ข้างทางระหว่างที่เราขับรถผ่านไปมา

เราควร หรือทำได้หรือไม่ มีข้อเสียหรือไม่คะ ถ้าทำได้ ควร จะ กล่าวคำ แผ่เมตตา หรือ อุทิศส่วนกุศล อย่างไร ดีคะ แล้วพวกเขาเหล่านั้น จะได้รับบุญหรือไม่

คำตอบ
สุนัข แมวที่ทิ้งซากศพอยู่บนถนน ถ้าคุณขับรถผ่านไปเห็นซากศพของมัน ถ้าคุณมีเมตตาและสงสารต่อสัตว์โลก คุณควรอุทิศบุญกุศลให้กับสัตว์ที่ถูกรถทับตายนั้น เขาจะได้รับบุญกุศลที่คุณอุทิศให้ ถ้าจิตวิญญาณมาอนุโมทนา และจะไม่ได้รับถ้าจิตวิญญาณของเขาไม่ทราบและไม่มาอนุโมทนา

2. ระหว่างที่นั่งสมาธิ มีอาการรู้สึก นึกถึงพระคุณบิดามารดา และซาบซิ้ง ถึงความดีของ เพื่อน ที่ เขา ดี กับเรามากๆ ใจมีสุขมากคะ และเหมือนกับบอกให้ตัวเราต้องทำดีต่อพวกเขา และทำบุญให้มากๆ คะ

ควร ปฏิบัติ กำหนด อย่างไร และ อาการนี้เรียกว่า อย่างไรคะ

กราบขอบพระคุณอาจารย์ มา ณ โอกาสนี้คะ

ธนวรรณ

คำตอบ
ระหว่างนั่งสมาธิ มีอาการรู้สึกนึกถึงพระคุณของบิดามารดา ฯลฯ นั่นเป็นช่วงที่สติไม่ได้อยู่กับอิริยาบถปัจจุบัน เป็นอาการของคนขาดสติ ควรดึงสติกลับมาสู่องค์ภาวนาเดิม ด้วยการกำหนดว่า รู้หนอ
รู้หนอ ๆ ๆ เรื่อยไป จนอาการรู้สึกนึกถึงดังกล่าวหายไป

116.
ขออนุโมทนาบุญกับอาจารย์ที่ช่วยไข้ข้อข้องใจให้กับทุกๆ ท่าน

เรียนถามอาจารย์สนองค่ะ เพื่อจะได้นำไปปฏิบัตได้ถูกต้องค่ะ

1. อาหารที่ใช้ไหว้เจ้าในวันเทศกาลต่าง ๆ ของจีน เช่น วันตรุษสารท วันตรุษจีน เป็นต้น หลังจากไหว้เจ้าหรือไหว้วิญญาณแล้ว สามารถนำไปใส่บาตรพระได้หรือไม่? เพราะไหว้แต่ละครั้งอาหารและผลไม้เยอะมาก บางอย่างแบ่งมาใส่บาตรไม่ได้ เช่น เป็ด ไก่ ตอนนี้ยังไม่กล้านำไปใส่บาตร เพราะกลัวทำไม่ถูกต้องค่ะ

ตอนนี้ได้พยายามแนะนำให้ทางบ้านใช้ของไหว้เป็นผลไม้แทน แต่ทางบ้านก็ยังไม่แน่ใจเพราะเป็นประเพณีมายาวนานแล้ว

หลังจากได้เริ่มศึกษาและปฏิบัติธรรมมาเล็กน้อย ก็พยายามถ่ายทอดสิ่งที่ได้ฟัง ได้อ่าน ได้ปฏิบัติ ให้ครอบครัวฟัง โดยเฉพาะพ่อกับแม่ค่ะ ก็รู้สึกมีการตอบสนองในทางที่ดี

คำตอบ
อาหารที่นำไปไหว้เจ้าแล้ว ไม่ควรนำไปใส่บาตร เพราะผลที่ได้รับจะเป็นบาป ถ้าอาหารและผลไม้มีมากก่อนนำไปไหว้เจ้า ควรแบ่งส่วนหนึ่งไว้ไปใส่บาตร อีกส่วนหนึ่งนำไปใช้ไหว้เจ้า การกระทำอย่างนี้เป็นบุญ ของที่ไหว้เจ้าแล้ว ควรแบ่งปันให้เพื่อนบ้านตามเห็นควร เพื่อเป็นการสร้างทานต่อไป

2. ข้าวที่จะใส่บาตร เป็นข้าวหม้อเดียวกับที่ทานเหลือวันก่อนได้ไหมค่ะ เนื่องจากเวลาหุงข้าวจะหุงคราวละมากๆ

คำตอบ
ข้าวที่จะใส่บาตร เป็นข้าวหม้อเดียวกับที่ทานเหลือจากวันก่อน ไม่ควรนำไปใส่บาตรเพราะเป็นอาหารเดน ถ้านำไปใส่บาตรก็เป็นเดนทาน ถ้าพระที่มาบิณฑบาต เป็นพระที่มีคุณธรรมสูง จะส่งผลให้ผู้ใส่บาตรต้องรับอกุศลวิบาก
      ตัวอย่างเช่น นางเรวดีเป็นภรรยาของนันทิยะมาณพ นำอาหารที่เหลือจากการบริโภคแล้ว ไปใส่บาตรพระอริยบุคคล ทำให้ตนเองตายแล้วลงไปเกิดเป็นสัตว์นรก


3. เรื่องการพูดค่ะ บางครั้งรู้สึกว่าแม่ชอบพูดเพ้อเจ้อ ชอบเอาเรื่องเก่าๆ ที่ไม่ดีของคนอื่น มาพูดอยู่เรื่อย จนบางครั้งทนไม่ได้ ก็โมโหบ้าง พยายามเตือนแม่หลายหน ก็ฟังบ้างไม่ฟังบ้าง เมื่อมาฝึกวิปัสสนากรรมฐานแล้ว ก็กำหนด "ยินหนอ ๆ ๆ" บางครั้งก็ไม่หาย จะทำอย่างไรดี เพราะกลัวว่าแม่จะผิดศีลข้อมุสาฯ ด้วยค่ะ (รู้สึกว่าตัวเองจะมีกรรมด้วย เพราะชอบเตือนแม่ ก็เลยทำให้พูดไม่ออกบ้าง ลิ้นแข็งบ้าง)

คำตอบ
แม่ชอบคุยเรื่องไม่ดีของคนอื่น เป็นเรื่องอกุศลกรรมของแม่ ถ้าอยากจะช่วยแม่ ตัวเองต้องสงบปากสงบคำ ไม่สนับสนุน ไม่ตำหนิ ไม่เตือน แต่ต้องทำดีให้แม่ดูเป็นตัวอย่างด้วยการไม่พูดจากสานต่อคำพูดที่ไม่ดีของแม่

4. ข้อนี้อาจเป็นปัญหาไร้สาระค่ะ คือว่า การทำบุญกระเบื้องมุงหลังคาวัด หรือพื้นอาคารในวัด ที่ให้ซื้อทำบุญเป็นแผ่น ๆ หากเรายังไม่หลุดพ้นจากวัฏฏะสงสาร แล้วสมมติเราละจากภพนี้ไปสู่ภพหน้า เช่น เป็นเทวดา อานิสงค์นี้จะทำให้เรามีบ้านหรือที่อยู่อาศัยหรือไม่คะ ? และหากเรายังไม่หลุดพ้นจากวัฏฏะสงสาร การทำบุญอย่างไรหรืออะไรบ้าง จึงจะทำให้เมื่อละจากภพนี้ไปแล้วจะมีสิ่งต่างๆ เช่น ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม (ส่วนอาหารและยาที่เป็นของทิพย์คิดว่าได้จากการใส่บาตรและทำสังฆทาน) หรือ สวรรค์สมบัติ เป็นต้น ที่จะเป็นปัจจัยให้ชีวิตในภพต่อไปมีพร้อม

    และช่วยเกื้อหนุนให้ได้ทำความดียิ่ง ๆ ขึ้นไป เพื่อเข้าสู่ความหลุดพ้นค่ะ

    หรือจะใช้การอธิษฐานจิตคะ?

คำตอบ
เรื่องการทำบุญดังที่มีระบุไว้ในบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ ควรต้องทำอยู่เสมอ ทำบุญด้วยกระเบื้องมุงหลังคาวัด หรือพื้นอาคารวัด เป็นการทำทานด้วยวัตถุที่มีผลเป็นบุญ การที่บุคคลจะพัฒนาจิตวิญญาณตัวเองให้หลุดพ้นจากสังสารวัฏ ต้องมีบุญเป็นพื้นฐานรองรับ จึงจะพัฒนาจิตวิญญาณได้สำเร็จ ดังนั้นไม่ควรปฏิเสธการทำบุญควรจะทำให้หลากหลาย เพราะบุญเป็นทรัพย์ภายใน ติดตามข้ามภพชาติ หากเรายังจำเป็นต้องเกิดใหม่

5. ในภพภูมิที่เป็นเทวดา จะสามารถสามารถปฏิบัติธรรม เช่น วิปัสสนากรรมฐาน ได้หรือไม่? ดิฉันเคยได้ยินว่าเทวดาจะสร้างบารมีให้ตัวเองเพิ่มได้ยาก ยกเว้นแต่เป็นเทาวดาชั้นสูงจริง ๆ

ขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ

คำตอบ
ในภพภูมิที่เป็นเทวดา เทวดาบางองค์สามารถปฏิบัติธรรม จนได้ดวงตาเห็นธรรมเป็นเทวดาโสดาบันได้ และเทวดาโสดาบัน บางองค์ปฏิบัติธรรม จนบรรลุอรหัตถผลเป็นพระอรหันต์ได้ เทวดาโสดาบันบางองค์ ต้องจุติลงไปเกิดเป็นมนุษย์โสดาบันแล้วปฏิบัติธรรมจนบรรลุอรหัตถผลเป็นพระอรหันต์ได้

115.
เรียนถามอาจารย์สนอง
เรื่องผลกรรมของการค้ายาเสพติด จะมีผลต่อตัวผู้ค้า
และครอบครัวของเขาด้วยไหมคะ และผลกรรมจะเป็นอย่างไร
...วัชรีภรณ์

คำตอบ
การค้ายาเสพติด ย่อมมนำความวิบัติมาสู่ตนและครอบครัว

     1. สุขภาพไม่ดี เจ็บป่วยบ่อย มีโรคร้าย

     2. ทำมาหากินไม่เจริญ พบความวิบัติ

     3. เกิดวิกฤตในชีวิต ทำให้พลิกผันไปทางเสื่อมได้

ทั้งนี้เพราะผลจากกรรมที่ทำให้เพื่อนมนุษย์ชาดสติสัมปชัญญะ และฆ่าคนอื่นแบบผ่อนส่ง เมื่อประมวลจากศีลข้อที่ร้ายแรงที่สุดคือ ข้อ 5 สุราเมรยะ เพราะถือว่าทำให้ขาดสติ เมื่อขาดสติแล้ว ผลร้ายตามมาได้มากมาย ดังนั้นหากเราเป็นผู้ทำให้ผู้อื่น ด้วยการค้ายาเสพติดถือว่ามีวิบากกรรมหนักและนาน


114.
เรียนถามอาจาย์ ดร. สนอง
บางคนเขาเห็นผมเปลี่ยนไปหลังจากบวช คือ ผมจะอ่านหนังสือธรรมะมากขึ้น ฟัง mp3 ธรรมมะ เขาก็ถามตามประสาคนที่ยังไม่เข้าใจเลยหรืออาจจะเข้าใจผิวเผิน ว่า "งมงายหรือเปล่า"

ผมจะอภิบายให้เขาฟังอย่างไร ให้เข้าใจและเห็นภาพ ทำให้เขาเปลี่ยนความคิดว่าไม่ใช่ "งมงาย"
(ผมก็อภิบายให้เขาฟังบ้างแล้ว แต่ในความรู้สึกของผม ยังไม่ดีพอ และยังไม่กินใจ หรือเห็นภาพ แล้วผมอยากจะอธิบายให้เขาฟังเพิ่มเติม)
Natthakorn

คำตอบ
ถ้าเราดีแล้ว ไม่ต้องอธิบายให้ใครเข้าใจ เราทำดีให้เขาดู เป็นครูให้เขาเห็นด้วยการกระทำ เมื่อเราพัฒนาพฤติกรรม จิตวิญญาณจนใสสะอาดแล้ว ไม่ต้องอธิบายใคร เพราะคนอื่นเห็นเขาก็รู้และยอมรับนับถือเอง

หากเรายังคิดหวังให้คนอื่นเข้าใจ ยอมรับ ถือว่ายังไม่อยากดีจริง เพียงแต่อยากเป็นที่ยอมรับ ซึ่งในรอบตัวเรามีบัวหลายเหล่า เราไม่อาจทำอะไรให้ถูกใจทุกคนได้ ดังนั้นทำความดีเพื่อความดี จิตใจเราค่อย ๆ พัฒนา คนอื่นคิดอย่างไร เรื่องของเขา ทองแท้ไม่กลัวไฟ คนดีแท้ไม่กลัวการพิสูจน์ทราบ คนบางคนยังไม่ถึงเวลาของเขา อธิบายอย่างไรก็ไม่เข้าใจ ดังนั้น ปล่อยวางคนอื่น ใครจะว่าอย่างไรยกให้เขา หันมาสำรวจตรวจกายใจเราดีกว่า แล้วเราก็จะดีจริง


113.
สวัสดีครับ อ.สนอง วรอุไร
อาจารย์ครับ ไม่ทราบว่าการพูดสรรพนาม Mueng,Gu
ในบางครั้งจะทำให้ศีลด่างพร้อยถึงขั้นขาดศีลข้อมุสาวาจาเลยหรือเปล่าครับ
คือผมสนใจด้านการปฏิบัติภาวนามากอยากให้ศีลบริสุทธิเพื่อจิตจะได้ตั้งมั่น
แต่ในชีวิตบ้างคร้งต้องพูดกับเพื่อนด้วยสองคำนี้นะครับ
ไม่ทราบจะมีผลถึงกับทำให้จิตใจหวั่นไหวไม่เป็นสมาธิเลยหรือเปล่าครับ
ขอบคุณอาจารย์มากครับ
art

คำตอบ
พูดมึง , กู ถือว่าไม่มีอินทรีย์สังวรศีล ข้อมุสาวาท ซึ่งประกอบด้วย พูดเท็จ , พูดหยาบ , พูดส่อเสียด และพูดเพ้อเจ้อ ให้ระวังเรื่องพูดเพ้อเจ้อด้วย เพราะคนมักนึกไม่ถึงว่าจะทำให้ศีลขาดได้

ในบางสถานการณ์บางคนคำพูดมึง , กู ดูเป็นธรรมดา ไม่ใช่คำหยาบ แต่เมื่อเป็นนักปฏิบัติธรรมแล้ว ถึงอย่างไรก็ควรสำรวมระวังวาจา ไม่ควรพูด ถ้ายังเลิกเด็ดขาดไม่ได้ ก็ค่อย ๆ ลดลง ลดลง จนเลิกได้ในที่สุด


112.
กราบสวัสดีอาจารย์ สนอง ดิฉันติดตามเวปไซด์นี้อยู่เป็นประจำ
โดยเฉพาะวันที่ถือศีล8 ( 1 วันต่อ 1 สัปดาห์) คำสอนของอาจารย์
ได้ฉุดช่วยให้ เกิดกำลังใจที่จะพยามฝึกฝนปฏิบัติ
เนื่องจากห่างบ้านมาไกลเพื่อศึกษาต่อ จึงคิดได้แต่เพียงว่า
หากทำบุญด้วยการบำเพ็ญ คงจะพอทดแทนบุญคุณบิดามารดาได้บ้างในตอนนี้
อยากรบกวนปรึกษาอาจารย์ว่า

1. ต้องบอกให้ผู้มีพระคุณทราบหรือไม่ เขาถึงจะอนุโมทนาในสิ่งที่เราพยามให้ในตอนนี้

คำตอบ
อนุโมทนาบุญ เป็นหนึ่งในบุญกิริยาวัตถุ 10 เมื่อเห็นผู้อื่นทำการอันเป็นกุศล เช่น กำลังเอาอาหารใส่บาตรพระถ้าผู้ที่เห็นกล่าวคำอนุโมทนา

หรือคำว่าสาธุ บุญย่อมเกิดขึ้นแล้วกับผู้กล่าว ที่ถามมา ต้องบอกให้ผู้มีพระคุณทราบด้วยเขาจะได้กล่าวคำอนุโมทนา แล้วบุญจะเกิดกับเขา


2. หวาดกลัวในการนั่งสมาธิลึกๆ รู้สึกว่าไม่ปลอดภัย เหมือนนั่งที่มีอาจารย์คุม พอลมหายใจเริ่มละเอียด กลัวได้ยิน หรือเจอวิญญาณต่างๆ
(เคยสัมผัสมาบ้างนิดหน่อยจิตปรุงใหญ่เลย)อยากสู้กับความกลัวเหล่านั้น
มีวิธีแก้ไขได้อย่างไรบ้างคะ

คำตอบ
สู้กับความกลัว เป็นตัณหาของผู้มีอัตตา หรือผู้มีความเห็นผิด ความกลัวเกิดจากการรู้ไม่จริงในเรื่องที่กลัว ถ้าพัฒนาจิต จนมีสติและเข้าถึงปัญญาเห็นแจ้งได้แล้ว ความกลัวที่เกิดขึ้นในใจจะหายไปตามกฎไตรลักษณ์
3. บางครั้งนั่งแล้วไปแน่นไปติดอยู่ตรงหน้าผาก หว่างคิ้ว กลายเป็นบางครั้งมึนศีรษะไป

ขอกราบขอบพระคุณในความกรุณาของอาจารย์ ที่เมตตาให้ธรรมะเป็นทาน
ที่อาจารย์ได้ชี้ทางสว่าง กรรมดีอันใดที่ลูกเคยกระทำ ขอน้อมบูชาอาจารย์
ด้วยความเคารพค่ะ

คำตอบ
บางครั้งนั่งปฏิบัติกรรมฐานแล้ว เกิดอาการแน่นตึงที่หน้าผากระหว่างคิ้ว วิธีหนีปัญหานี้ทำได้ด้วยการเปลี่ยนอิริยาบท วิธีแก้ปัญหาที่ทำได้ดีกว่าคือ ขณะเกิดอาการแน่นตึงระหว่างคิ้วให้กำหนดว่า รู้หนอ รู้หนอ รู้หนอ เรื่อยไปจนกว่าอาการดังกล่าวจะหายไป และวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุด คือใช่จิตที่นิ่งเป็นสมาธิตามดูอาการที่เกิดขึ้นระหว่างคิ้ว ว่าเป็นไปตามกฏไตรลักษณ์ เมื่อใดที่จิตเห็นอาการที่เกิดขึ้นระหว่างคิ้วดับไปปัญหาจะหมดไปในที่สุด

111.
กราบเรียนอาจารย์สนอง วรอุไร ค่ะ
ดิฉันมีคำถามที่อยากถามดังนี้ค่ะ
1. ดวงจิตของผู้ที่เป็นเจ้าหญิงหรือเจ้าชายนิทรา จะเป็นอย่างไรค่ะ

คำตอบ
จิตยังอยู่กับร่างกาย เป็นพลังงานที่ยังทำงานได้ เขาสามารถรับรู้สิ่งที่ญาติสื่อไปถึงเขาได้ แต่เขาไม่สามารถใช้อวัยวะของร่างกาย สื่อกลับมาถึงญาติได้ ด้วยสาเหตุที่วงจรสื่อกลับ (รับสั่งงาน) ของสมองชำรุด

2. เมื่อนั่งสมาธิแบบพองหนอ ยุบหนอ แล้วสงบบ้างไม่สงบบ้าง ความรู้สึกของจิตอยู่ตรงนี้ไม่ได้ไปไหนต่อ แบบนี้ถูกแล้วยังคะ

คำตอบ
ตอนที่จิตสงบแสดงว่ามีสติเกิด ตอนที่จิตไม่สงบแสดงว่าขาดสติจิตไปรับสิ่งกระทบอื่นมาปรุงอารมณ์ ต้องแก้ไขด้วยการภาวนาว่า รู้หนอ รู้หนอ รู้หนอ เรื่อยไปจนกว่าความไม่สงบ (อารมณ์) จะหายไป แล้วจึงกลับมาภาวนา พองหนอ-ยุบหนอใหม่ ทุกครั้งที่มีอารมณ์มาแทรก ต้องกำหนดอย่างนี้แล้วจิตจะมีสติมากขึ้น สงบเป็นสมาธิมากขึ้น

3. เคยไปอบรมวิปัสสนา แล้วมีอยู่ครั้งหนึ่งรู้สึกเหมือนถูกดูดเข้าไปในความมืด ความว่าง (นั่นเป็นแค่อุปกิเลสอย่างหนึ่งใช่ไหมคะ) ตอนนั้นรู้สึกกลัว จึงยั้งจิตไม่ให้เข้าไป

คำตอบ
ความรู้สึกเหมือนถูกดูดเข้าไปในความมืด ความว่าง ขณะนั่งภาวนานั่นแสดงว่า สติเคลื่อนออกไปจากองค์ภาวนา ต้องกำหนดเหมือนข้อ (๒) จนกว่าสติจะถูกดึงกลับมาอยู่กับพองหนอ-ยุบหนอดังเดิม ที่บอกว่าจิตรู้สึกกลัวแสดงว่า จิตไม่รู้จริงเรื่องความมืด ความว่าง ถ้าจะให้ความกลัวหมดไปต้องใช้พลังของสมาธิมาพัฒนาจิตให้เกิดปัญญาเห็นแจ้ง แล้วจะไม่กลัวความมืดความว่างอีกต่อไป

4. การถวายข้าวให้พระพุทธรูปเป็นสิ่งจำเป็นไหม และทำได้ในช่วงเวลาใดบ้างคะ เช่นต้องก่อน 11 โมงเช้า หรือไม่คะ
กราบขอบพระคุณค่ะ
พัฒน์ ... 11 สิงหาคม 2548

คำตอบ
พระพุทธเจ้านิพพานไปแล้ว ทิ้งร่างกาย (รูป) ไปแล้ว จิต (นาม) พ้นไปจากสมมุติแล้ว ความดี-ความชั่ว บุญ-บาป ความหิว-ความอิ่ม ฯลฯ เหล่านี้เป็น สมมติ จิตที่พ้นสมมติไปแล้วเรียกว่า วิมุตติ พระพุทธเจ้ายังต้องอาศัยสิ่งที่เป็นสมมติอยู่อีกหรือ เช่นเดียวกันพระพุทธรูป เป็นรูปสมมติที่สร้างขึ้นแทนองค์พระพุทธะ เอาข้าวไปถวายแล้วรูปสมมติ (พระพุทธรูป) ฉันข้าวได้หรือ ในครั้งกาล พระพุทธโคดม สอนเวไนยสัตว์ให้เชื่อโดยมีเหตุผลรองรับให้เชื่อ โดยใช้ปัญญาพิจารณา อย่าปลงใจเชื่อด้วยการฟังตามกันมาก ด้วยการลือสืบ ๆ กันมา ด้วยการอ้างตำราหรือคัมภีร์ ฯลฯ ผู้ตอบคำถามเชื่อพระพุทธโคดม จึงสรุปว่า ไม่จำเป็นต้องถวายข้าวพระพุทธรูป แต่ควรบูชาพระคุณของพระพุทธเจ้า ด้วย อามิสบูชา (ดอกไม้ ธูป เทียน ฯลฯ) และจะเป็นการบูชาที่ดีที่สุด ต้องบูชาด้วยการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานหรือที่เรียกว่า ปฏิบัติบูชา

110.

ขอเรียนถามท่านอาจารย์สนอง 5 ข้อ ดังนี้ครับ

1. สัตว์ที่เกิดในชาตินี้มีโอกาสเกิดเป็นมนุษย์ได้หรือไม่ หากได้ เพราะอะไร -ที่ถามเพราะการเกิดเป็นมนุษย์ต้องมีศีล 5 ครบ แต่สัตว์จะมีศีล 5 ครบได้อย่างไร

คำตอบ
สัตว์เดรัจฉานตายแล้วมาเกิดเป็นมนุษย์ เป็นไปได้แต่มีจำนวนน้อย สัตว์เดรัจฉานบางตัวที่กินพืช ไม่มีโอกาสสร้างบาปอกุศล ขณะใกล้จิตจะออกจากร่างไม่มีทุกขเวทนากุศลกรรมเก่าส่งผล จิตระลึกถึงเพื่อนต่างภพที่เป็นมนุษย์ แล้วจิตหลุดออกจากร่างทันทีโอกาสที่จิตมาปฏิสนธิเป็นมนุษย์มีได้

2. การที่เกิดเป็นมนุษย์ได้ ต้องมีศีล 5 ครบ แล้วทำไมจึงมีคนประเภทโหดเหี้ยม ทารุณ เช่นพวกฆาตกร เป็นต้น

คำตอบ
ขณะปฏิสนธิมีศีลครบ แต่อกุศลกรรมนำไปปฏิสนธิในสิ่งแวดล้อมไม่ดี เช่นไปเกิดในครอบครัวมิจฉาทิฏฐิ มีจิตเป็นบาปอกุศล ไม่พบกัลยาณมิตรในทางธรรม จิตขาดสติ โปรกรมจิตที่เป็นอกุศลยังมีอยู่ เมื่อเหตุปัจจัยลงตัว โอกาสทำชั่วจึงเกิดขึ้นได้

3. เมื่อก่อนชอบสะสมพระเครื่อง พอมาได้ฟังธรรมจากอาจารย์และพระอริยสงฆ์ แล้วตอนนี้พยายามจะเลิกเพราะเป็นความหลง จึงอยากจะนำพระที่เคยเช่ามาให้คนอื่นเช่าต่อ เพื่อนำเงินไปทำบุญ หรือสร้างกุศลจะได้ไหมครับ

คำตอบ
วัตถุใดที่เราเป็นเจ้าของโดยชอบธรรม สามารถนำไปจำหน่ายเพื่อนำทรัพย์ไปใช้ประโยชน์ในทางอื่นได้ ไม่ผิดธรรม

4. ขณะที่จิตใกล้ดับหรือตายควรทำอย่างไร ระลึกถึงพระพุทธ หรือให้มีสติรู้ตลอดเวลา หรือสวดมนต์ เพราะตอนนี้ชักสับสน เนื่องจากอาจารย์สอนให้พยายามมีสติระลึกรู้อยู่ตลอดเวลา

คำตอบ
ควรฝึกจิตให้มีสติระลึกรู้แต่สิ่งที่เป็นกุศลอยู่เสมอ เช่น สวดมนต์เป็นประจำ รักษาศีลเป็นประจำ ให้ทานเป็นประจำ ฯลฯ จนเกิดเป็นความเคยชิน ขณะจิตหลุดออกจากร่างด้วยการมีสติกำกับ มีได้เป็นได้

5. การอ่านหนังสือ ดูทีวี เป็นการส่งจิตออกนอกหรือไม่ครับ

ขอแสดงความนับถืออย่างสูง

เศวตศรีถวัลย์ ... 8 สิงหาคม 2548

คำตอบ
การอ่านหนังสือเป็นการส่งจิตออกนอกตัว แต่ไม่ออกนอกห้อง การดูทีวี เป็นการส่งจิตออกนอกตัวและออกนอกห้อง ขณะปฏิบัติธรรมไม่ควรทำทั้ง ๒ อย่าง แต่ควรน้อมจิตมาอยู่ในตัวเอง เพื่อให้เกิดความสงบ เพราะทั้งการอ่านหนังสือหรือดูทีวี ล้วนเป็นเหตุให้เกิดสังขารคือการปรุงแต่งหากอินทรีย์ยังอ่อน จึงยากที่จะรวมจิตให้นิ่งได้

109.
เรียนอ. สนองครับ
ผมยังเป็นผู้เริ่มต้นในการนั่งภาวนาอยู่แต่ก็มีความสนใจมากครับ
อยากถามอ.สนองว่าการที่นั่งสมาธิแล้วแต่จิตใจยังไม่สงบยังซัดส่ายวอกแวกอยากทราบว่าเราจะรู้ได้อย่างไรครับว่าเป็นเพราะศีลเรายังไม่บริสุทธิหรือเพราะเพิ่งเริ่มหัดใหม่ครับ
ขอบคุณอาจารย์มากครับ
อาร์ต ... 6 สิงหาคม 2548

คำตอบ
การปฏิบัติภาวนา หากมีศีลคุมใจ จิตจะสงบได้ง่าย อยากรู้ว่ามีศีลคุมใจหรือไม่ให้ดูที่ความคิด พูด และทำ คิดอยากได้ของคนอื่น คิดเบียดเบียน คิดลวนลาม พูดเท็จ หยาบ ส่อเสียด เพ้อเจ้อ หยิบฉวยของผู้อื่นมาใช้โดยพละการ พรากชีวิตสัตว์ เช่น ยุง มด เหล่านี้ต้องไม่มีอยู่ในใจของนักปฏิบัติธรรม

108.
เรียน อาจารย์สนอง ที่เคารพ
คุณแม่ของเพื่อน เคยปฏิบัติธรรม อยู่เสมอ แต่ต่อมาป่วยเข้าโรงพยาบาล หลังจากนั้นความจำเลอะเลือน สับสน อยากทราบว่า เหตุการณ์เช่นนี้ จะทำให้หมดโอกาส ปฏิบัติธรรมในขั้นสูงขึ้นไปอีกหรือไม่คะ
เคารพ
บุราพรรณ ... 4 สิงหาคม 2548

คำตอบ
     สมองไม่รับรู้ เลอะเลือนแล้ว แสดงว่าสมองซึ่งเป็นเครื่องมือให้จิตอาศัย หมดสภาพที่จะใช้การได้แล้ว ให้ช่วยด้วยการเปิดเพลงสวดมนต์ให้ฟัง เปิดเทปให้ฟังเพื่อให้จิตสงบ เพราะจิตยังรับรู้ได้แม้จะแสดงออกให้เรารู้ไม่ได้ ยังรับรู้เมื่อลูกหลานทำอะไรให้ ด้วยความรักด้วยความเมตตา ท่านยังรับรู้ความรู้สึกได้ แต่โอกาสที่จะปฏิบัติธรรมชั้นสูงขึ้นไป อย่าเพิ่งพูดถึงเลยครับ คนมือดีเท้าดีสภาพร่างกายดีทุกอย่าง บางคนบอกว่าปฏิบัติธรรมมาเป็น 10 ปี ก็ยังไม่เห็นมีการพัฒนาก็มีเยอะ เพราะยังโกรธ ยังอิจฉา ยังถือเขาถือเรา ด้วยความที่ไม่รู้จักกำจัดขยะในใจออก สิ่งดีๆจึงเข้าไม่ได้ เพราะไม่มีที่ว่างให้เข้า

    การที่คุณแม่เพื่อนเป็นเช่นนี้ เราดูแลท่านตามสภาพด้วยความเอาใจใส่ ด้วยความเมตตาเป็นการยกจิตท่านให้เป็นกุศล ให้เป็นบวกได้ เมื่อถึงจิตดวงสุดท้าย นับว่ามีผลหนุนส่งท่านได้มากเชียว ขอเอาใจช่วยนะครับ อย่าเพิ่งหมดกำลังใจ หากที่ใดมีความรัก มีความศรัทธาอย่างเปี่ยมล้น ปาฏิหารย์เกิดได้เสมอครับ

107.
อยากเรียนถามอาจารย์ดังนี้ค่ะ :
1. หากเกิดความเบื่อหน่ายกับพฤติกรรมของคนในโลก ดิฉันอยากจะหนีไปหาทีสงบ ๆ ที่ใดสักแห่งอยู่ เปลี่ยนงาน เปลี่ยนที่อยู่ หรือควรจะปฏิบัติจิตของตนอย่างไรให้หลุดพ้นสภาวะเช่นนี้ได้?

คำตอบ
      หากเกิดความเบื่อหน่าย.......แสดงว่าขณะนี้ยังไม่เบื่อหน่ายกับพฤติกรรมของคนในโลก ควรรักษาอารมณ์ของใจไห้เป็นอย่างนี้เรื่อยไปเป็นเรื่องดี มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ต้องอยู่ร่วมกับคน จะหนีให้พ้นไปจากคนถ้ายังมีชีวิตอยู๋เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
      ถ้าวันใดเกิดเบื่อหน่ายพฤติกรรม ของคน วันนั้นสภาพจิตใจของคุณได้ตกต่ำไปแล้ว เพราะต้องการให้คนอื่นเป็นอย่างที่คุณคิดนั้น เป็นความเห็นผิด(มิจฉาทิฏฐิ) ผู้ที่เห็นผิดชีวิตมีอุปสรรค มีปัญหา เป็นทุกข์ วิธีแก้ไขทำได้ถ้าคุณเชื่อผู้รู้มาบอกให้เปลื่ยนความเห็นให้เป็นสัมมาทิฏฐิ ด้วยการฝึกจิตให้มีสติระลึกทันสิ่งกระทบ และฝึกปัญญารู้ทันสิ่งกระทบตามความเป็นจริงแล้วใช้สติและปัญญารู้ทัน นำทางให้กับชีวิต ปัญหาเบื่อหน่ายต่อพฤติกรรมของคนอื่นจะหมดไป ถ้าคุณไม่เชื่อและไม่พัฒนาจิตใจตนเองเสียใหม่ แม้แต่พระพุทธเจ้าก็ช่วยคุณ ไม่ได้


2. เมื่อพบเจอบุคคลที่ไม่ดี เช่น ความเห็นแก่ตัวของเพื่อน, เจ้านาย เราควรจะทำจิตอย่างไรให้เป็นกุศลจิตที่ดีในการคิดดีพูดี ทำดีกับพวกเค้า เพราะมันยากมากกับคนที่ปฏิบัติไม่ดีกับเรา และควรหรือที่เราจะต้องปฏิบัติดี จงใจรักภักดีกับเจ้านายของเราในพฤติกรรมเช่นนี้ ในเมื่อมงคล 38 ข้อแรกบอกว่าไม่ให้คบคน พาล ดิฉันจะต้องทำอย่างไรบ้าง?

รบกวนอาจารย์ช่วยตอบดิฉันให้ด้วยนะคะ เพราะไม่ใช่ดิฉันเท่านั้นที่สงสัย มีอีกหลายคนค่ะ และดิฉันจะนำหลักธรรมไปเผยแพร่เป็นธรรมะทานให้กับบุคคลผู้ยังไม่เห็นแสงสว่างในธรรมะเช่นเดียวกับดิฉัน

ขอบพระคุณอาจารย์มากค่ะ
รัตนาภรณ์ ... 2 สิงหาคม 2548

คำตอบ
     คนอื่นไม่ดีเป็นเรื่องของเขา เป็นความไม่ดีของเขา เมื่อใดที่คุณพัฒนาจิตใจตนเอง จนสามาระกำจัดขยะในใจตัวเอง กำจัดสิ่งเศร้าหมอง(กิเลส)ให้หมดไปจากใจตัวเองได้ คุณจะมองคนอื่นเป็นคนที่น่าสงสาร คนไม่ดีจะไม่เกิดขึ้นในจิตใจคุณอีกต่อไป นี่คือสัจธรรมลองพิสูจน์ดูสิครับ ว่าสิ่งที่พูดนี้เป็นจริงหรือไม่
     ส่วนเรื่องมงคล 38 ข้อที่ว่าไม่ให้คบคนพาล คนพาลเป็นคนทุศิล ไร้ธรรม ถ้าคุณคบหาสมาคม คลุกคลี ใกล้ชิด เพื่อนประเภทนี้เป็นคนที่มีความเห็นผิดจะทำให้คุณเอง คิด พูด ทำแต่สิ่งผิด ปัญหาอุปสรรคจะเกิดตามมา ทำให้เป็นทุกข์ ฉนั้นควรเลี่ยงให้ห่าง แล้วนำตัวเข้าใกล้บัญฑิตในทางธรรม(กัลยาณมิตร) เพื่อนประเภทนี้จะคอยขัดขวางท้วงติงหากคุณคิด พูด ทำไม่ดี และเขาจะคอยชักชวนคุณให้คิด พูด ทำแต่สิ่งดีๆ ชีวิตจะได้ไม่มีปํญหา มีแต่ความเจริญ และสงบสุข.

106.

เรียน ถามท่านอาจารย์ ดร.สนอง ผู้มีเมตตายิ่ง

ขอเรียนถามดังนี้

1. ผู้ที่เริ่มฝึกวิปัสสนา เดินจงกรม นั่งสมาธิ กำหนด พองยุบ (ขั้นอนุบาล ) จิตยังไม่นิ่ง กำหนดไม่ละเอียด แต่พยายามปฏิบัติทุกวันให้ได้คะ ยังไม่เกิดสภาวะธรรม จะได้รับบุญกุศล หรือไม่คะ

เนื่องจากดิฉันจะแผ่เมตตา และอุทิศส่วนกุศล หลังการทุกครั้ง ค่ะ

คำตอบ
ทุกครั้งที่ปฏิบัติกรรมฐาน แม้เป็นเพียงจิตสงบเล็กน้อย หรือสงบเพียงระยะเวลาสั้น ๆ บุญเกิดทุกครั้งเป็นบุญเล็ก ๆ แต่หากทำบ่อย ๆ บุญก็ใหญ่ขึ้น ๆ สะสมอยู่ในจิตของผู้ปฏิบัติเอง หลังจากปฏิบัติสามารถอุทิศบุญกุศลให้กับผู้ที่ต้องการให้ได้

2. การแผ่เมตตา ต่าง จาก การอุทิศส่วนกุศลอย่างไร คะ บุญแตกต่างหรือไม่คะ

คำตอบ
เมตตาคือความรัก และปรารถนาให้ผู้อื่นได้รับประโยชน์และมีความสุข เมตตาจะเกิดได้ต้องให้อภัยผู้อื่นเป็น คนมีเมตตาเป็นคนไม่โกรธ เป็นคนเย็นถ้าทำได้อย่างนี้แสดงว่ามีเมตตาอยู่ในจิตใจ เมื่อมีแล้วจะแผ่เมตตาให้ใครก็สามารถทำได้

ส่วนบุญกุศลนั้น เกิดจากการปฏิบัติบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ เมื่อทำแล้วบุญกุศลก็เกิดขึ้นในใจ จะอุทิศให้ใครย่อมทำได้

3. ท้ายบทสวดมนต์ เมื่อสวดมนต์เสร็จแล้ว จะมีการเรียงลำดับดังนี้ 1. แผ่เมตตาให้ตนเอง 2. คำอธิษฐานฮโหสิกรรม 3. แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ 4. บทแผ่ส่วนกุศล 7 ข้อ อิทังเม มาตาปิตุนัง ฯ ถึง อิทังสัพพะสัตตานัง ฯ

แล้วต่อด้วย 5. บทสวดพระคาถาชินบัญชร และบท กะระณียะเมตตะสุตัง ฯ อื่นๆ คะ การเรียงลำดับจาก 1 -5 ถูกต้องหรือไม่อย่างไรคะ ควรเป็นอย่างไร

คำตอบ
สวดมนต์ได้ทุกบทที่ต้องการสวด สวดด้วยใจที่มีสติกำกับ หากรู้ความหมายของบทสวดมนต์ได้ยิ่งดี หลังสวดควรแผ่บุญกุศลให้แก่สรรพสัตว์ทั่วจักรวาลหรือจะให้เฉพาะเจาะจงก็ทำได้ ขึ้นอยู่กับว่ามีจิตใจคับแคบหรือมีจิตใจกว้างขวาง

ส่วนเรื่องการแผ่เมตตาให้กับตนเองนั้น ถ้าเรามีเมตตาแล้วไม่จำเป็นต้องทำ (ดูข้อ ๒)

4. ควรสวดมนต์ทุกครั้งก่อนทำสมาธิ หรือไม่ ควรสวดบทใดอย่างไรคะ

คำตอบ
การสวดมนต์ต้องรู้ความหมายของบทสวด ว่าสวดเพื่ออะไร เช่นสวดเพื่อบูชาคุณของพระรัตนตรัย สวดเพื่อแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ สวดเพื่อป้องกันภัยพิบัติ ฯลฯ จะได้เลือกบทสวดได้ถูก การสวดมนต์เป็นการเจริญสติ สวดบ่อย ๆ ทำให้จิตตั้งมั่นเป็นสมาธิได้ สวดมนต์ก่อนปฏิบัติธรรมได้ก็ยิ่งดี

5. การเดินจงกรม และ นั่งสมาธิ จำเป็นต้องทำ 2 อย่างทุกครั้งเสมอหรือไม่ หากบางวันมีเวลาจำกัด ควรเลือกปฏิบัติ เดินจงกรม หรือ นั่ง สมาธิ คะ

คำตอบ
คนเราขณะมีชีวิตอยู่ต้องผ่านอิริยาบถ ยืน เดิน นั่งนอน กิน ดื่ม พูด ฟัง ฯลฯ การปฏิบัติธรรมทำได้ทุกอิริยาบถ เลือกปฏิบัติตามความเหมาะสม

6. การทำกรรมฐาน หมายถึง การทำวิปัสสนา ความหมายเดียวกันใช่ไหมคะ ควรต้องทำ ณ เวลาเดิม ๆ ทุกวัน หรือไม่ เช่นทุกวัน เวลา 22.00 -24.00 และ 04.00 -06.00 น.

คำตอบ
การทำกรรมฐาน หมายถึงการทำจิตให้นิ่งเป็นสมาธิ (สมถกรรมฐาน) แล้วทำจิตให้เกิดปัญญาเห็นแจ้ง (วิปัสสนากรรมฐาน) ปฏิบัติได้ในทุกเวลาที่สะดวก ทุกเวลาที่ว่างจากการทำงานประจำ

7. การอุทิศส่วนกุศล หากจำชื่อไม่ได้ แต่นึกเห็นภาพ หน้าตาผู้นั้นได้ เขาก็จะได้รับหรือไม่คะ และถ้าเราไม่รู้จักเขา แต่มีจิตเมตตาอยากให้เขาพ้นทุกได้รับส่วนบุญกุศล เอ่ยชื่อ นามสกุล เขาจะได้รับเช่นกันใช่หรือไม่คะ

เนื่องจากพี่สาวของน้องที่ทำงานดิฉัน เสียชีวิต ซึ่งคาดว่า อาจจะเป็นการฆ่าตัวตาย หากแม่ หรือน้องสาวของผู้ตายเขาปฏิบัติจะได้ผลบุญกว่า หรือไม่ ทั้ง2 เสียใจและทุกข์ใจอย่างมากคะ ควรแนะนำเขาอย่างไรคะ

กราบขอบพระคุณอาจารย์ ขอให้ท่านมีสุขภาพ แข็งแรง คะ

ธนวรรณ ... 1 สิงหาคม 2548

คำตอบ
จำชื่อไม่ได้แต่นึกเห็นภาพ ก็อุทิศส่วนบุญกุศลให้ได้ แต่เขาจะได้รับบุญกุศลนั้นได้หรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ถ้าปัจจัย ๓ พร้อมคือ มีผู้อุทิศ มีบุญกุศลและผู้รับมาอนุโมทนา เขาต้องได้รับ ถ้าเหตุปัจจัยทั้งสามไม่พร้อมก็ไม่ได้รับ

ควรแนะนำน้องสาวและแม่ของผู้ตายว่า ทุกคนต้องตายเหมือนกันทุกคนคนต้องพลัดพรากเหมือนกัน นี่แหละทุกข์ เป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตพูดให้เขาเข้าใจความจริงของชีวิต อยู่กับความจริง ยอมรับความจริง ความจริงเป็นเพียงสภาวะ ควรปล่อยวางความจริงนั้นเสีย แล้วเราจะไม่ต้องทุกข์

คนที่ไม่ยอมรับความจริง คนที่วิ่งหนีความจริง คนที่ไม่อยู่กับความจริงเป็นทุกข์ตลอดกาล ต้องการอย่างนั้นหรือ

105.
สวัสดีครับ อ.สนอง
ผมเป็นคนมักโกรธ โมโหคนง่ายมากๆ อยากให้ อ.ช่วยแนะนำวิธีลด ละ เลิก
นิสัยเหล่านี้ด้วยครับ ผมรู้ว่ามันไม่ดีเลย แต่บางทีเราสั่งจิตใจเราไม่ได้ครับ
ขอบพระคุณอาจารย์มากครับ
อาร์ต   ... 30 กรกฎาคม 2548

คำตอบ
ความโกรธสาเหตุเกิดจากมีสิ่งขัดใจเข้ากระทบจิต แล้วจิตรับมาปรุงเป็นอารมณ์โกรธ วิธีแก้คือต้องเจริญเมตตาอยู่เสมอ ด้วยการให้อภัยหรือขณะที่อารมณ์โกรธ ให้พูดซ้ำ ๆ ว่า “ ช่างมันเถอะ ” จนกว่าจะหายโกรธ ทำบ่อย ๆ ทำเรื่อย ๆ ให้เป็นความเคยชิน แล้วความโกรธจะหายไปเอง

104.
พระภิกษุมาจ้างเหมาร้านก๊วยเตี๋ยว ให้เข้าในทำในวัด เนื่องในงานอบรมพระภิกษุ แล้วร้านก๊วยเตี๋ยวก็เข้าไปทำก๊วยเตี๋ยว ถวายพระในวัดนั้นอยากทราบว่าพระผิดวินัยหรือไม่

คำตอบ
ผิด เพราะเป็นการสั่งให้เขาทำให้ ถ้าเจ้าของร้านก๋วยเตี่ยวไม่ได้ปวารณาไว้ว่าจะมาทำถวายพระ แต่พระมาว่าจ้างเอง ถือว่าผิด

103.
สวัสดีค่ะ ดร.สนอง วรอุไร
ดิฉันได้อ่านหนังสือทางสายเอกซึ่งทางชมรมกัลยาณธรรม ส่งมาให้ ดิฉันได้รับประโยชน์จากหนังสือของอาจารย์โดยเฉพาะการปฏิบัติขณะที่จิตมีสมาธิระดับอัปนาสมาธินั้น อาจารย์ใช้คำที่อ่านแล้วเข้าใจง่าย ดิฉันอยากขอบคุณที่ได้เล่าประสบการณ์ให้ได้อ่าน รวมทั้งอยากจะถามบางคำถามซึ่งดิฉันรู้สึกว่าตัวหนังสือที่หนาทึบบางประโยค ดิฉันพิจารณาว่ายังไม่น่าจะถูก คือคำว่า จิตแท้ๆคือตัวเรา เนื่องจากว่าดิฉันเคยรู้สึกว่าจิตเป็นเรา แต่ว่าไม่สามารถที่จะทำให้ใจเราหลุดพ้นได้ แต่พอย้อนกลับมาพิจารณาว่า แม้แต่จิตก็สักแต่เป็นเพียงที่อาศัยที่ระลึกรู้ของสติ ตามเทปที่ได้ฟังของหลวงพ่อพุทธและพระอาจารย์สุรศักดิ์ กลับทำให้ปลดปล่อยตัวเอง วางได้ ยอมได้ และยึดถือน้อยลง ผลลัพธ์คือสุขขึ้นเหมือนกับจะยอมรับว่า แม้แต่จิตแท้ๆก็ไม่ใช่เรา แตกต่างจากตอนที่ดิฉันปฏิบัติแล้วถอดจิตออกจากร่างแล้วไปสำคัญว่าจิตนี้คือเรา เวลาตายเราก็คือจิตที่ออกจากร่างไป มันยังทุกข์อยู่เราละได้จริงแต่ว่ามันไม่พอ การที่เราไปสำคัญว่านี้คือเรา เราคือสิ่งนี้มัน มันยังทุกข์อยู่ค่ะ

ดิฉันจึงคิดว่าข้อความที่ดิฉันได้ส่งมาให้เป็นเหมือนข้อแลกเปลี่ยนประสบการณ์การได้ยินได้ฟัง สุดท้ายดิฉันขออนุโมทนาในกุศลของท่าน
ขอบคุณค่ะ โสภาวัลย์   23 กรกฏาคม 2548

คำตอบ
ตอนไปปฏิบัติที่วัดมหาธาตุ แล้วจิตหลุดออกไปจากร่างกาย จึงรู้ว่าจิตที่ออกไปนั้นคือตัวเรา นั่นเป็นผลจากฝึกสมถกรรมฐาน ยังเป็นจิตที่มีอวิชชา ความรู้นั้นจึงเป็นโลกิยปัญญายังนำให้เวียนตายเกิดในสังสารวัฏ

เมื่อผีมาบีบคอในวิหารร้าง แล้วผีเลิกบีบไปตามกฏไตรลักษณ์ จึงได้เกิดปัญญาเห็นแจ้ง อันเป็นผลจากวิปัสสนากรรมฐาน ผลตามมาคือรู้จริงเรื่องผี คือไม่กลัวผีอีกเลย หากได้พัฒนาต่อไปเรื่อยๆ จนเห็นสรรพสิ่งดับไป ตามกฏไตรลักษณ์ เกิดปัญญาเห็นแจ้งในสรรพสิ่ง จิตคงมีแต่วิชชาล้วนๆ ไม่มีอวิชชาเข้าแทรกอาศัย เมื่อนั้น จึงรู้แจ้งว่า ไม่มีเราในจิต และจะไม่มีรูปนามปรากฏให้เห็นได้อีกในสังสารวัฏ หลังจากรูปนามในภพนี้หายไป

สรุป ถ้าจะเข้าถึงความจริงแท้ว่า ไม่มีเราในจิตหรือจิตไม่ใช่เรา อย่างถ่องแท้ด้วยตัวเองจริงๆ ไม่ได้ฟังจากคำบอกเล่า ผู้นั้นคือพระอรหันต์


ขอบคุณและอนุโมทนาในปัญญาของผู้ถาม

102.
เรียน ท่านอาจารย์ สนอง ที่นับถือ
1. คนที่เกิดมาในพุทธศาสนา แสดงว่าเคยเกิดในพระพุทธศาสนามาก่อนใช่ไม่คะ และผู้ที่เกิดในศาสนาอื่น เมื่อตายแล้วก็จะเกิดอยู่ในศาสนาของเขาหรือไม่คนที่เกิดเป็นชาวต่างประเทศ มีโอกาสมาเกิดเป็นคนไทยหรือไม่คะ

คำตอบ
ส่วนใหญ่ใช่ ส่วนน้อยไม่ใช่ คนที่เกิดในศาสนาอื่นหรือคนที่เกิดเป็นชาวต่างประเทศ มีโอกาสมาเกิดเป็นคนไทยได้ ถ้าเขาตั้งปรารถนาไว้ก่อนตายว่าจะมาเกิดเป็นคนไทย และต้องสร้างเหตุปัจจัยให้ลงตัว เช่น ต้องมีศีล 5 เป็นปรกติอยู่ในใจและจิตดวงสุดท้ายก่อนออกจากร่าง ระลึกถึงกรรมที่ทำไว้ใกล้ตาย เช่นระลึกถึงลอยกระทง การเล่นสงกรานต์ หรือข้าวเหนียวส้มตำไก่ย่าง เป็นต้น อย่างใดอย่างหนึ่ง และต้องไม่มีกรรมที่ทำบ่อยๆหรือกรรมหนักๆมาชิงตัดหน้า ถ้าอย่างนี้ พอมีโอกาสมาเกิดเป็นคนไทยได้

2. วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เช่น วันอาสาฬบูชา เข้าพรรษา ควรพาคุณพ่อคุณแม่ ไปทำบุญอย่างไรถึงจะได้บุญมาก และถูกต้อง

คำตอบ
วันสำคัญทางพุทธศาสนา ควรพาพ่อแม่ไปทำทาน ใส่บาตร รักษาศีลและเจริญภาวนาอยู่เสมอ

3. ลูกจะใส่บาตร แทนคุณพ่อคุณแม่ได้หรือไม่คะ ควรทำอย่างไรที่ต้องการให้ท่านได้รับบุญนี้ หรือ ใส่ซองปัจจัย ร่วมบริจาคบุญต่างๆ ที่ทำ เพราะ ท่านไม่สะดวกที่จะทำด้วยตนเองในบางเวลาคะ

คำตอบ
ลูกใส่บาตรแทนพ่อแม่ได้ เมื่อทำทานแล้วต้องบอกให้พ่อแม่ทราบ เพื่อให้ท่านอนุโมทนา ท่านก็ได้รับผลบุญนั้น

4. คุณพ่อคุณแม่ เป็นครอบครัวคนจีน อายุ 70 กว่า และลูก อยากให้ท่านได้ ฝึกสติ ขอความเมตตาท่านอาจารย์ ช่วยชี้แนะวิธีการที่จะให้คุณพ่อคุณแม่ของลูกได้ปฏิบัติ คะ

กราบขอบพระคุณ ในความเมตตา มา ณ โอกาสนี้คะ

ด้วยความศรัทธา และนับถือยิ่ง

ธนวรรณ   20 กรกฎาคม 2548

คำตอบ
อายุกว่า 70 ปีแล้ว ชราแล้ว ยังฝึกจิตให้มีสติได้ ทำง่ายๆคือ เมื่อหายใจเข้า หายใจออก แต่ละครั้งให้ดึงลูกประคำหนึ่งลูก ทำอย่างนี้เรื่อยๆ ทำบ่อยๆ ทำทุกครั้งที่ว่างจากการงาน หรือว่างจากการพูดคุย

101.
เรียน อาจารย์สนอง จากคำตอบข้อที่ 100
" การเอาเนื้อเป็ด เนื้อไก่ ไปเซ่นไหว้ คือการส่งอาหารไปให้ผีหรือเจ้าที่ (บรรพบุรุษ) ถ้าเขาเป็นผีหรือเจ้าที่ที่สื่อสาร (ทางจิต) กันได้แล้วเขามาอนุโมทนา เขาจะได้รับอาหารนั้นในลักษณะเป็นทิพย์ ถ้าผีหรือบรรพบุรุษไม่รู้และไม่มาอนุโมทนา เป็นอันว่าไม่ได้รับ "
คำถาม เราจะทราบได้อย่างไรว่าเขามาอนุโมทนากับเราคะ

ขอบคุณค่ะ
พรทิพย์   19 กรกฎาคม 2548

คำตอบ
ให้เขามาบอกเหมือนยายกุหลาบมาบอกตาฟักนั่นแหละ (เล่าไว้ในหนังสือมาดสดใสด้วยใจเกินร้อย) สำคัญอยู่ที่ว่าความถี่คลื่นจิตของเรา กับความถี่คลื่นจิตของผีบรรพบุรุษ ต้องมีความถี่เดียวกันจึงจะสื่อได้ แต่ถึงแม้จะสื่อกันไม่ได้ก็ควรอนุโมทนาด้วยกุศลจิตว่าเราได้ให้แล้ว นั่นคือเราได้สร้างทานบารมีแล้ว

 

 

 

ส่งคำถามถึง ดร. สนอง วรอุไร => question@kanlayanatam.com

สอบถาม ให้คำแนะนำที่ => webmaster@kanlayanatam.com