คำถาม จากการบรรยาย ที่มุกดาหาร

   วันที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๕  

คำถาม ข้อ ๑.
มีผู้เฒ่า คนเก่าพูดว่า สวดอิติปิโสสมโภชพระหรือโบสถ์ ตกนรกใช่หรือไม่

คำตอบ
ไม่ใช่ อิติปิโส … . ฯ เป็นบทสวดมนต์ที่ทำให้จิตระลึกในคุณของพระพุทธเจ้า ผู้ใดสวดแล้วจิตมีสติ มีความศรัทธามั่นคงในพระพุทธเจ้า ตายแล้วจิตย่อมโคจรสู่สุคติโลกสวรรค์


คำถาม ข้อ ๒.
จริงหรือเปล่าคะ ได้ยินมาว่าคนเรามีเทวดาคุ้มครองประจำตัว ถ้ามีจริง ทำอย่างไรคะ ( หมายถึงอุทิศส่วนบุญ )

คำตอบ
ตอบว่าจริง หากผู้นั้นมีศีลมีธรรมสถิตอยู่กับใจทุกขณะตื่น ตรงกันข้าม ตอบว่าไม่จริง หากมนุษย์ผู้นั้นประพฤติทุศีลไร้ธรรม

ผู้ที่ประพฤติบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ ( ทาน ศีล ภาวนา ประพฤติอ่อนน้อม ช่วยเหลือคนอื่น อุทิศความดีให้ผู้อื่น อนุโมทนาความดีของผู้อื่น ฟังธรรม สั่งสอนธรรม และทำความเห็นให้ตรง ) ย่อมมีบุญเกิดขึ้นและถูกเก็บสั่งสมอยู่ในดวงจิตของผู้ประพฤติ ผู้มีบุญประสงค์อุทิศบุญให้กับเทวดาที่คุ้มรักษาตน สามารถทำได้ด้วยการกล่าววาจาว่า “ด้วยบุญกุศลที่ข้าพเจ้ามี ข้าพเจ้าอุทิศให้กับเทวดาที่คุ้มรักษาข้าพเจ้า จงเป็นสุขๆเถิด”


คำถาม ข้อ ๓.
(๑) ไม่มีเงินจะทำอย่างไร

(๒) อยากรวยจะทำอย่างไร

(๓) …. ฆ่าคนพุทธในภาคใต้ต้องตกนรกใช่ไหมครับ แล้วนรกของเขากับนรกของชาวพุทธ เป็นที่แห่งเดียวกันไหมครับ

คำตอบ
(๑) - ขยันทำแต่งานดี (ไม่ผิดกฎหมาย ไม่ผิดศีล ไม่ผิดธรรม)

   - บริโภคใช้สอยแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ (สาระ) กับชีวิต

   - มีชีวิตเป็นผู้ให้สิ่งดีงามแก่ผู้อื่น

(๒) ความอยากรวย เป็นกิเลสที่เกิดขึ้นกับจิตของผู้มีความเห็นผิด … . ขออภัยไม่แนะนำ

(๓) ใช่ครับ เป็นนรกที่มีสภาวะเหมือนกัน คือถูกทรมานอย่างแสนสาหัส แต่มีสมมุตที่ต่างกัน และมีอายุขัยยาวนานถึง ๕๐๐ ปีนรก (๔ ล้านปีมนุษย์ เท่ากับวันหนึ่งกับคืนหนึ่งในนรกขุมนี้) บุรพกรรมที่ทำในครั้งยังเป็นมนุษย์คือ ปาณาติบาต


คำถาม ข้อ ๔.
บาปหรือเปล่าที่นำพญานาคมาทำพิธี มีคนเข้าทรงพญานาคมากจัง จริงหรือปลอม รู้ได้อย่างไรว่ามีพญานาคจริงมาเข้าทรง

คำตอบ
พิธีกรรมที่มนุษย์ทำ หากเป็นการประพฤติเบียดเบียนให้พญานาคขาดความเป็นปกติสุข ถือว่าเป็นบาป ผู้ที่ปรารถนาพัฒนาตนให้พ้นไปจากความทุกข์ ย่อมเว้นประพฤติดังกล่าว และผู้ใดพัฒนาจิต ( สมถภาวนา ) จนเข้าถึงโลกิญญาณได้แล้ว ย่อมรู้ เห็น เข้าใจในการเข้าทรงพญานค ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเป็นเรื่องเท็จ


คำถาม ข้อ ๕.
เคยแน่นอก ปวดหลัง เป็นมาหลายปี ถึงที่หนึ่งแล้วยังนอนไม่ได้ เป็นอยู่ทุกคืน ไปหาหมอทุกคลินิกในมุกดาหาร หมอบอกว่าเป็นโรคกระเพาะ แต่ไม่เชื่อ คิดว่าตัวเองต้องตายแน่ๆ สุดท้ายคิดว่า ตายเป็นตาย นั่งและนอนวิปัสสนาโดยบริกรรมพุทโธ เป็นอย่างนั้นเกือบปี โดยที่ดิฉันเป็นหายไปเมื่อไรไม่ทราบ ทั้งๆที่ไม่ได้ไปหาหมอเลย เป็นเพราะอะไรคะ ขอบพระคุณค่ะ

คำตอบ
เป็นเพราะอกุศลวิบาก ( การเจ็บป่วย ) ยกเลิกให้ผล


คำถาม ข้อ ๖.
ช่วยอธิบายให้ชื่นใจหน่อยค่ะ เกี่ยวกับเด็กชายมาร์กที่ห่มผ้าเหลืองเหมือนพระ และท่องบทสวดมนต์ได้ เป็นเพราะการกลับชาติมาเกิดหรือเปล่า เห็นเด็กแล้วมีพฤติกรรมสงบเสงี่ยมมาก ขณะออกทีวีจะนั่งนิ่งได้ดีมาก เป็นเพราะชาติก่อนเคยบวชจนบรรลุธรรมแล้วหรือเปล่าคะ เห็นแล้วอยากเชิญมาเขตการศึกษามุกดาหารจังเลย

คำตอบ
คำว่า “บรรลุธรรม” ในที่นี้หมายถึง เข้าถึงธรรมที่ตนเคยทำได้ในอดีตก่อนที่จะมาเกิดในชาตินี้ แต่สัญญาเดิม ( ความจำได้ในบทสวดมนต์ ) ยังคงให้ผลต่อเนื่องมาจนถึงชาติปัจจุบัน


คำถาม ข้อ ๗.
การฆ่าสัตว์เพื่อนำมาเป็นอาหาร อยากทราบว่ามีวิธีแก้กรรมอย่างไร แล้วเราจะหลุดพ้นจากเวรกรรมหรือไม่

คำตอบ
ต้องประพฤติบุญใหญ่ ( ปฏิบัติธรรม ) ให้มีอานิสงส์มากกว่าบาปที่ทำ ผู้ใดพัฒนาจิต ( วิปัสสนาภาวนา ) จนบรรลุดวงตาเห็นธรรมนับแต่พระโสดาบันขึ้นไป ย่อมหนีพ้นจากหนี้เวรกรรม ( ฆ่าคน ) ที่ตนได้ทำไว้ก่อนได้ จงดูพระองคุลีมาลเป็นตัวอย่าง


คำถาม ข้อ ๘.
นิพพานมีความหมายเพียงใด สุญตา ( ความว่าง ) เป็นความจริงสูงสุดของพุทธศาสนา ที่พุทธศาสนิกชนพึงมีใช่หรือไม่

คำตอบ
ขออภัยไม่ตอบ เพราะไม่มีประสบการณ์ในเรื่องนี้


คำถาม ข้อ ๙.
การให้เพื่อนยืมเงิน โดยที่ไม่รู้ว่าเพื่อนเอาเงินนั้นไปทำแท้ง ถือว่ามีส่วนร่วมในการทำบาปด้วยหรือไม่คะ และมีวิธีแก้อย่างไร

คำตอบ
คำว่า “บาป” คือความไม่สบายกาย ไม่สบายใจ หากให้เพื่อนยืมเงินแล้ว มีสภาวธรรมในดวงจิตเป็นดังที่กล่าว ถือว่าเป็นต้นเหตุให้มีการทำบาปเกิดขึ้น วิธีแก้ไขคือต้องสวดมนต์ก่อนนอน เจริญอานาปานสติหลังสวดมนต์ เมื่อสองกิจกรรมแล้วเสร็จ ต้องอุทิศบุญกุศล ให้เจ้ากรรมนายเวรไปเรื่อยๆ จนกว่าจิตจะไม่ระลึกถึงเรื่องนี้


คำถาม ข้อ ๑๐.
ฆ่าสัตว์เพื่อทำอาหารทานเองผิดไหม ?

คำตอบ
ถ้าเป็นพุทธศาสนิก ถือว่าประพฤติทุศีลข้อปาณาติบาต


คำถาม ข้อ ๑๑.
การทำแท้งลูกผิดมากเท่าไหร่ บาปมากไหม ผิดศีลข้อใด บาปกรรมจะติดตามตัวเราไปตลอดหรือเปล่า ( โดยไม่ตั้งใจ )

คำตอบ
ผิดด้วยเหตุประพฤติปาณาติบาต จะบาปมากหรือบาปน้อย หรือจะถูกจองเวรตลอดไปหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความพยาบาทของเด็กที่ถูกทำแท้ง


คำถาม ข้อ ๑๒.
การเข้าฌานสูงสุด มีวิธีการถอยออกจากฌานได้อย่างไร

คำตอบ
ถอยออกจากฌานด้วยการอธิษฐานจิตก่อนปฏิบัติสมถภาวนา ว่าจะเข้าฌานเป็นระยะเวลานานเท่าใด


คำถาม ข้อ ๑๓.
การเข้าฌานแล้วหลับไป มีวิธีแก้ไขอย่างไร การเข้าฌานให้ก้าวหน้าถึงระดับสูงสุดได้อย่างไร

คำตอบ
คนที่หลับจริง จิตไม่มีการเกิด - ดับ แต่เมื่อจิตทรงสมาธิระดับฌาน จิตมีการเกิด - ดับอยู่ตลอดเวลา จึงมีอารมณ์ของฌานเกิดขึ้น การเข้าฌานให้ก้าวหน้าถึงระดับสูงสุด ต้องเร่งความเพียรพัฒนาจิตจนมีกำลังของสติกล้าแข็ง


คำถาม ข้อ ๑๔.
รู้ปัจจุบันที่เกิดกับใจรู้ได้อย่างไร จะวางจากตัวรู้นี้ได้อย่างไร อะไรเป็นเหตุให้อิ่มในรู้ หรือเมื่อในรู้ จนวางตัวรู้ที่เป็นอยู่ได้

คำตอบ
ผู้ใดพัฒนาจิต ( สมถภาวนา ) ให้มีสติเกิดขึ้น ผู้นั้นย่อมมีจิตระลึกรู้อยู่กับปัจจุบันขณะ และจะวางตัวรู้ที่เป็นอยู่ได้ ต้องพัฒนาจิต ( วิปัสสนาภาวนา ) จนเข้าถึงความเป็นอนัตตาของผัสสะที่เกิดขึ้นในดวงจิต และสุดท้ายเหตุที่ทำให้อิ่มหรือเบื่อในรู้ ต้องพัฒนาจิตให้เข้าถึงนิพพิทาญาณ


คำถาม ข้อ ๑๕.
ขอให้ท่านได้เลือกสถานที่นั่งสมาธิ และให้เหตุผลว่าทำไมจึงเลือกข้อนั้น

(๑) ใต้ร่มไม้ สงบ สงัด สบาย

(๒) ในห้องแอร์ สงบ สงัด สบาย

คำตอบ
(๑) เลือกนั่งสมาธิใต้ร่มไม้ เพราะมีอากาศถ่ายเทสะดวก เหมาะสมกับการพัฒนาจิต ให้เข้าสู่สภาวะสงบ สงัด สบาย

(๒) เลือกนั่งสมาธิในบ้านที่ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ เพราะเป็นสถานที่เหมาะสม ต่อการพัฒนาจิตให้เข้าสู่สภาวะสงบ สงัด สบาย


คำถาม ข้อ ๑๖.
บริษัทมหาชนที่ค้าสิ่งมีชีวิต เช่น เนื้อไก่ อาหารต่างๆที่ต้องฆ่าสัตว์เป็นจำนวนมาก แล้วเรามีหุ้นในบริษัทดังกล่าว เราจะบาปหรือไม่คะ

คำตอบ
เป็นบาป เพราะสนับสนุนให้มีการฆ่าสัตว์


คำถาม ข้อ ๑๗.
ใส่บาตรพระจะต้องมีข้าวเสมอไปไหมคะ

คำตอบ
บาตรเป็นภาชนะสำหรับภิกษุสามเณรใช้รับอาหารบิณฑบาต ใส่บาตรทุกครั้งไม่จำเป็นต้องมีข้าว ใส่อย่างอื่นที่เหมาะสมต่อการบริโภค ขบฉัน ของพระหรือเณรก็ได้


คำถาม ข้อ ๑๘.
คนที่ตีพ่อและด่าพ่อแม่ว่า “พ่อชั่วๆ แม่ชั่วๆ พ่อหมาๆ แม่หมาๆ” จะบาปมากไหม และจะได้รับผลอย่างไร

คำตอบ
เป็นบาปที่เกิดจากมีพฤติกรรมอกตัญญูต่อผู้มีอุปการคุณ ผลที่จะเกิดตามมาคือ ชีวิตและกิจการงานที่ทำ ย่อมเกิดความวิบัติหรือหายนะ


คำถาม ข้อ ๑๙.
(๑) มีรถเพื่อนบ้านเกิดอุบัติเหตุที่นครพนม แต่ไม่มีใครทราบ แต่จู่ๆลูกได้บอกกับสามีว่า รถบ้านนี้เกิดอุบัติเหตุ อยู่มาอีก ๒ วัน น้องเขาเดินมาบอกว่า รถของเขาไฟไหม้ที่นครพนม ถามว่าลูกทราบได้อย่างไร

(๒) สร้อยคอของลูกขาดครั้งแรก ในวันที่สามีบวชเพื่อถวายในหลวงเมื่อปี ๒๕๕๓ จู่ๆลูกได้ยินมีคนมาบอกว่า ให้จับสร้อยคอ ลูกเอามือจับถือสร้อยคอขาดค่ะ เป็นอย่างนี้ถึง ๒ ครั้ง

(๓) เรื่องสุดท้าย คือเมื่อปลายเดือนลูกขับรถลงไปกทม. และขับรถต่อ ผ่านเส้นทางบางนา - บางพลี ลูกขับรถอยู่ได้แค่ ๖๐ กม. ต่อชั่วโมง และใกล้ถึงสะพานยูเทิรน์ ห่างจากรถคันหลังเพียงช่วงตัว อยู่ๆลูกเร่งเครื่องและมีรถกระบะตกลงมาใส่รถคันหลัง เป็นปาฏิหาริย์หรือเปล่าคะ

คำตอบ
(๑) และ (๒) ทราบได้ด้วยการมีสัมผัสจากอมนุษย์

(๓) คำว่า “ปาฏิหาริย์” หมายถึง ความอัศจรรย์หรือสิ่งที่น่าอัศจรรย์ ดังนั้นสิ่งที่บอกเล่าและถามไป ถือว่าเป็นปาฏิหาริย์ได้