คำถาม จากผู้เข้าฟังธรรมบรรยาย

ณ ชมรมสุรัตนธรรม บางลำพู    ๒๔ มกราคม ๒๕๕๓

    

คำถาม ข้อ ๑. สัมภเวสี รู้ตัวหรือไม่ว่า ได้ตายไปแล้วค่ะ และใช้ชีวิตอยู่อย่างไร

คำตอบ สัมภเวสีคือสัตว์ (รูปนาม) ที่ยังไม่ไปเกิดอยู่ในภพภูมิใด นับแต่ภพนรกถึงพรหมโลก สัมภเวสีมีรูปเป็นทิพย์ ลักษณะเหมือนเดิมก่อนตายทุกประการ ในระยะแรกที่ตายไปเป็นสัมภเวสี ยังไม่รู้ว่าตัวเองได้ตายไปแล้ว แต่จะรู้ได้ต่อเมื่อไปพูดจาทักทายกับคนที่ตนรู้จักแล้วเขาไม่พูดด้วย หรือเขาไม่มีกิริยาโต้ตอบ

   สัมภเวสีใช้ชีวิตเหมือนตอนที่ยังไม่ตายจากร่างหยาบ เช่น ฝนตกก็เปียกฝน แดดออกก็ร้อน แต่กินอาหารหยาบอย่างมนุษย์ไม่ได้ ต้องกินอาหารที่เกิดจากการอุทิศให้ ฯลฯ

 

คำถาม ข้อ ๒. ประเทศไทยจะประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรงหรือไม่ค่ะ และถ้าเกิดจะเกิดเมื่อไร

คำตอบ พระพุทธโคดม ห้ามมิให้ภิกษุประพฤติดิรัจฉานวิชา เช่น ใช้ความรู้ที่ตนมีไปในการพยากรณ์ ทำคนให้วิบัติ ทำคนให้หลงงมงาย ฯลฯ ต้องขออภัยที่ไม่ตอบเพราะหากใช้จิตที่พัฒนาดีแล้วสัมผัส ผู้ตอบปัญหามิได้เป็นดังที่ตาเห็น

 

คำถาม ข้อ ๓. พระพุทธเจ้า พระองค์ยังทรงมาปรากฏกายให้บุคคลใดเห็นบ้างหรือไม่ค่ะ

คำตอบ ผู้ตอบปัญหาไม่มีประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับปัญหาที่ถาม แต่ได้เคยเสวนากับพระป่าผู้ทรงธรรม ท่านได้เล่าให้ฟังว่า มีอยู่วันหนึ่ง หลังจากทำจิตเข้าถึงความทรงฌานได้แล้ว แล้วถอยจิตออกจากฌาน จึงได้พบพระพุทธโคดมและอัครสาวกทั้งสอง มาปรากฏกายให้ท่านสัมผัสได้ พร้อมกับตรัสว่า “ จงทำสีจีวรของท่านให้เหมือนกับอัครสาวกทั้งสอง ตรัสพร้อมกับชี้พระดัชนีไปยังพระมหาโมคคัลลานะและพระสารีบุตร ” ผู้ตอบปัญหาได้ถามพระป่าว่า

   ผู้ตอบปัญหา : สีจีวรของพระอัครสาวกเป็นสีอะไร

   พระป่า : เป็นสีทองโบราณ

   ด้วยเหตุนี้นี่เอง ผู้ตอบปัญหาได้เห็นว่าพระพุทธชินราชที่พิษณุโลกและพระเจ้าเก้าตื้อที่เชียงใหม่ ที่มีผู้บูรณะใหม่จึงไม่เหมือนเดิม

 

คำถาม ข้อ ๔. ช่วงที่เปลี่ยนจากสมถะเข้าสู่วิปัสสนา ขอให้อธิบายโดยละเอียดอีกครั้ง

คำตอบ
ผู้ใดเจริญสมถภาวนา จนจิตตั้งมั่นเป็นสมาธิจวนแน่วแน่ (อุปจารสมาธิ) แล้วใช้จิตตามพิจารณากาย เวทนา จิต ธรรม ว่าแต่ละสภาวธรรมที่จิตสัมผัสอยู่ในขณะนั้น ล้วนต่างดำเนินไปตามกฎไตรลักษณ์ คือ ไม่เที่ยง ไม่คงที่ (อนิจจัง) เป็นสภาวะที่คงทนอยู่ไม่ได้ ด้วยมีการเกิด-ดับ เป็นตัวบีบคั้น (ทุกขัง) และเป็นของที่มิใช่ตัวตน (อนัตตา) ผู้ใดเห็นถูกตรงตามนี้ แล้วจิตไม่ยึดเอาสภาวธรรมมาเป็นของตน ปัญญาเห็นแจ้งในสภาวธรรมย่อมเกิดขึ้น จึงเรียกผู้นั้นว่าเป็นผู้เข้าถึงวิปัสสนาญาณ

 

คำถาม ข้อ ๕. มีแนวทางอย่างไรให้ศีลบริสุทธิ์ค่ะ

คำตอบ ผู้ใดใช้คุณธรรมที่เรียกว่า สัจจะและความเพียร เป็นเครื่องมือพัฒนาจิตให้มีกำลังของสติเพิ่มขึ้นได้เมื่อใดแล้ว ผู้นั้นย่อมพัฒนาศีลให้บริสุทธิ์ได้

 

คำถาม ข้อ ๖. หากมีสมาธิถึงขั้นฌาน สามารถปิดอบายภูมิได้เลยหรือเปล่า และอธิษฐานจิตไม่เกิดขึ้นพรหมได้หรือเปล่า

คำตอบ สมาธิระดับฌานไม่สามารถปิดอบายภูมิได้ แต่หนีอบายภูมิได้ชั่วคราวในขณะจิตทรงอยู่ในฌาน

   ส่วนคำว่า “ อธิษฐาน ” หมายถึงการตั้งจิตปรารถนาในสิ่งดีงาม ผู้ใดมิได้ตั้งจิตอธิษฐานไปเกิดในพรหมโลก แต่หากปฏิบัติสมถภาวนาจนจิตตั้งมั่นระดับฌาน แล้วจิตทิ้งขันธ์ลาโลกในขณะที่จิตทรงอยู่ในฌาน พลังของฌานสมาบัติย่อมผลักดันจิตวิญญาณ ให้โคจรไปเกิดเป็นพรหมชั้นใดชั้นหนึ่ง ตามกำลังของฌานที่ตนเข้าถึง ฉะนั้นผู้ที่มิได้อธิษฐาน ย่อมเข้าถึงพรหมโลกได้ด้วยการทำเหตุให้ถูกตรงคือฌาน

 

คำถาม ข้อ ๗. อาจารย์ปฏิบัติอย่างไรขณะที่รู้สึกว่า มนุษย์นอกจากไม่สวยแล้ว ตัวก็เหม็น แล้วก็เห็นว่าเราเพี้ยน แต่ยังต้องทำงานร่วมกับคนเหล่านั้น

คำตอบ ผู้ตอบปัญหาใช้จิตตามดูสัมผัสที่เกิดขึ้นทางตา ทางจมูก ว่าดำเนินไปตามกฎไตรลักษณ์ จิตจึงเป็นอิสระต่อภาพที่เห็น จิตเป็นอิสระต่อกลิ่นที่จมูกสัมผัส และเช่นเดียวกันเมื่อได้ยินเสียงพูดทางหู แล้วยอมรับความจริงว่า ตนเองมีพฤติกรรมไม่เหมือนคนทั่วไป ปัญหาก็ไม่เกิดขึ้น

 

คำถาม ข้อ ๘. เชื่อเรื่องการตั้งชื่อ สีถูกโฉลก หมายเลขถูกโฉลก เป็นเรื่องจริงไหมค่ะ

คำตอบ เป็นความจริงกับคนที่ทำเหตุได้ถูกตรงกับความเชื่อ เช่น ตั้งชื่อว่าสมหวัง แล้วจะให้ผลเป็นจริงได้ ต้องประพฤติบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ เมื่อใดที่บุญให้ผล ความสมปรารถนาในสิ่งที่คาดหวัง (สมหวัง) ย่อมเกิดขึ้น หรือเชื่อว่าสีแดง เป็นสีที่ถูกโฉลก ต้องสร้างเหตุให้ถูกตรงคือ ประพฤติตนให้เป็นผู้รู้ไม่จริง แล้วมีจิตตกอยู่ใต้อำนาจของสีแดง แล้วจะเชื่อว่าสีแดงเป็นสีที่ถูกโฉลก หรือเชื่อว่าเลขที่เข้ากันได้กับสิ่งที่ตนกำหนดว่าเป็นมงคล (ถูกโฉลก) เป็นความเชื่อที่เกิดจากความไม่รู้จริง แล้วทำให้จิตตกอยู่ใต้อำนาจของตัวเลข แล้วจะเชื่อว่าตัวเลขดังกล่าวถูกกับโฉลก ซึ่งตรงกันข้ามกับผู้ที่รู้จริงแท้ จะรู้ว่า ความเชื่อก็ดี สีก็ดี ตัวเลขก็ดี ล้วนต่างเป็นสมมุติบัญญัติ ที่เกิดขึ้นแล้วย่อมมีดับไปเป็นธรรมดา สมมุติเป็นสิ่งที่ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน (อนัตตา) จิตที่เห็นแจ้งย่อมปล่อยวาง ชื่อ สี และตัวเลข ความเชื่อดังกล่าวข้างต้น จึงไม่เป็นความจริงกับคนที่เห็นถูกตามธรรม

 

คำถาม ข้อ ๙. อาจารย์ครับ จิตมีรูปร่างเป็นอย่างไร และคนที่มีศีลถือว่าเป็นคนดีไหม? ถ้าไม่ใช่ ทำอย่างไรจึงจะได้ชื่อว่าเป็นคนดี

คำตอบ ผู้ใดพัฒนาจิตให้เกิดทิพพจักขุได้แล้ว ย่อมเห็นจิตมีลักษณะเป็นดวง

  อนึ่ง คนที่มีศีลและมีธรรมคุ้มครองใจ ถือว่าเป็นคนดี

  คนที่มีศีลและมีจิตเป็นทาสของอบายมุข (ไร้ธรรม) ไม่ชื่อว่าเป็นคนดี

 

คำถาม ข้อ ๑๐. อยากทราบว่า คนโกงบ้านโกงแผ่นดิน ผลกรรมคืออะไร

คำตอบ คนที่โกงบ้านโกงแผ่นดิน ถือว่าทุศีลข้ออทินนาทาน เมื่อใดที่กรรมให้ผล ย่อมมีคติชั่วเป็นผลให้ต้องรับ หลังจากธรณีสูบพระเจ้าสุปปพุทธะ ลงไปเกิดในอเวจีมหานรกแล้ว พระพุทธะได้ตรัสกับภิกษุว่า “ บุคคลที่ทำกรรมชั่วไว้แล้ว จะหนีไปในอากาศ หนีไปอยู่ท่ามกลางมหาสมุทร หนีไปสู่ซอกเขา แม้จะอยู่ในผืนแผ่นดินใด ไม่พึงพ้นจากกรรมชั่วได้ ”