คำถาม จากการบรรยาย จาก มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีี

   วันที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๕๕

  

คำถาม ข้อ ๑. การสวดมนต์ไหว้พระเป็นการสั่งสมบุญบารมีหรือไม่ คำตอบ การสวดมนต์ไหว้พระ เป็นการสั่งสมบุญ (ภาวนา) ข้อ ๓ ในบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ (ทาน ศีล ภาวนา ประพฤติอ่อนน้อม ช่วยเหลือคนอื่น อุทิศความดีให้ผู้อื่น ยินดีที่ผู้อื่นทำดี ฟังธรรม สั่งสอนธรรม และทำความเห็นให้ตรง) และเป็นการสั่งสมบารมี (ปัญญา) ข้อ ๔ ในบารมี ๑๐ (ทาน ศีล เนกขัมมะ ปัญญา วิริยะ ขันติ สัจจะ อธิษฐาน เมตตา และอุเบกขา) คำถาม ข้อ ๒  ตอนนี้ข้าพเจ้าอายุ ๒๐ ปี ทำอย่างไรถึงจะปล่อยวางจิตให้เป็นสุขได้ รวมถึงสภาวะอารมณ์ของวัยรุ่น คำตอบ บุคคลจะปล่อยวางอารมณ์ได้ ต้องพัฒนาจิต (สมถภาวนา) จนมีกำลังของสติกล้าแข็ง และพัฒนาจิต (วิปัสสนาภาวนา) จนมีกำลังปัญญาเห็นแจ้งกล้าแข็ง คำถาม ข้อ ๓. การฝึกกรรมฐาน สามารถปฏิบัติได้ด้วยตนเองอย่างไรครับ และจะเริ่มอย่างไร ? คำตอบ การฝึกกรรมฐาน สามารถปฏิบัติด้วยตัวเองได้ ด้วยการเอาจิตจดจ่ออยู่กับอิริยาบถที่เป็นปัจจุบันขณะ ถามว่า : จะเริ่มอย่างไร ? ตอบว่า : เริ่มด้วยการสวดมนต์ก่อนนอน หลังสวดมนต์ต้องกำหนดลมหายใจเข้า - ออก ตามกำหนด เวลาที่มีโอกาสทำได้ คำถาม ข้อ ๔. ผู้ที่ถูกคนในหรือนอกครอบครัวขืนใจกาย ผิดศีลข้อ ๓ หรือไม่ คำตอบ ไม่ถือว่าผิดศีลข้อ ๓ ในกรณีที่จิตไม่มีความกำหนัดยินดี หรือไม่มีเจตนาให้คนอื่นประพฤติข่มขืนตัวเอง คำถาม ข้อ ๕. ทำอย่างไรจึงจะเกิดสมาธิและความจำ คำตอบ  ประสงค์มีจิตตั้งมั่นเป็นสมาธิ ต้องฝึกจิต (สมถภาวนา) ให้มีสติเกิดขึ้นก่อน แล้วสมาธิย่อมเกิดตามมาเป็นอัตโนมัติ จิตที่เป็นสมาธิ ส่งผลให้ความถี่คลื่นสมองเป็นระเบียบ แล้วความจำของสมอง ย่อมเพิ่มขึ้นเป็นธรรมดา คำถาม ข้อ ๖. เวลาออกจากฌาน ทำไมถึงต้องภาวนาให้เห็นพระเทวทัต คำตอบ ผู้ใดปรารถนาเห็นพระเทวทัต ว่าตายแล้วลงไปเกิดอยู่ในอเวจีนรก ต้องเข้าฌานให้ได้ก่อน แล้วถอนจิตออกจากความทรงฌาน อธิษฐานขอเห็นพระเทวทัต จิตย่อมไปเห็นพระเทวทัตได้ว่ามีอยู่จริง ตรงกันข้าม หากไม่ปรารถนาเห็น ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าฌาน คำถาม ข้อ ๗. การเข้า - ออกฌาน ทำได้อย่างไรคะ จิตเราถึงจะเข้าสู่ร่างกายเหมือนเดิม ออกไปแล้วต้องจำกัดเวลาถอดจิตหรือเปล่า และจิตของคนอื่นสามารถเข้าร่างกายแทนจิตของเราได้หรือไม่ คำตอบ การเข้า - ออก ฌาน ต้องอธิษฐานความยาวนานของฌาน แล้วจึงพัฒนาจิต (สมถภาวนา) จนจิตเข้าถึงความตั้งมั่นเป็นสมาธิแน่วแน่ ความสมปรารถนาจึงจะเกิดขึ้นได้ จิตของคนอื่น ไม่สามารถเข้ามาใช้ร่างกายของเราได้ หากเจ้าของไม่ยินยอม การถอดจิตชั่วขณะ เมื่อสมปรารถนาแล้ว จิตจะเข้าสู่ร่างเดิม คำถาม ข้อ ๘. ในกรณีที่ปฏิบัติเพื่อบรรลุโสดาบัน เราจะทราบได้อย่างไรว่า สภาพจิตของเรา เข้าถึงแล้วหรือยัง คำตอบ ทราบด้วยปัญญาเห็นแจ้งที่เกิดขึ้นกับจิต ที่เรียกว่า สนฺทิฏฐิโก (รู้เห็นได้ด้วยตนเอง) คำถาม ข้อ ๙.  เวลาทำบุญกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ล่วงลับไปแล้ว และยังสามารถอุทิศให้กับคนที่ยังมีชีวิตอยู่ได้หรือไม่ และจะส่งผลอย่างไรต่อคนที่ยังมีชีวิต คำตอบ ได้ครับ คนที่ยังมีชีวิต จะได้รับบุญที่มีผู้อุทิศให้ต้องมาอนุโมทนาบุญ เมื่ออนุโมทนาแล้ว ความพร่อง ความขาดแคลน (หิว, กระหาย) ในดวงจิตย่อมหมดไป